เร่งสูบน้ำออกจากที่นาพันไร่ พร้อมเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ

เร่งสูบน้ำออกจากที่นาพันไร่ พร้อมเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ

อธิบดีกรมชลประทาน พร้อมด้วยเลขาธิการ กรมทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่ทำนาของเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการพร่องน้ำออกจากถ้ำหลวงและหนองน้ำพุ จนทำให้นาข้าวของเกษตรกรได้รับความเสียหายนับพันไร่

นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน พร้อมด้วยนายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการกรมทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบดูพื้นที่ทางการเกษตรที่ถูกน้ำท่วม ในพื้นที่บ้านสันปูเลย ต.บ้านด้าย อ.แม่สาย ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการสูบน้ำออกจากวนอุทยาน ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ของเจ้าหน้าที่ในการช่วยเหลือ 13 ชีวิต ที่ติดอยู่ในถ้ำและพยายามจะเอาออกจากถ้ำให้ได้ภายในวันนี้ จึงต้องรีบสูบน้ำตลอดทั้งวันทั้งคืน

ส่งผลให้พื้นที่ท้ายน้ำ ซึ่งเป็นพื้นที่ของชาวบ้านที่กำลังทำเกษตรในการทำนาได้รับผลกระทบกว่า 1,000 ไร่ โดยทางเจ้าหน้าที่ของกรมชลประทานได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วม และมีชาวบ้านช่วยกันเปิดทางไหลของน้ำให้สะดวกมากยิ่งขึ้น

ซึ่งทางอธิบดีกรมชลประทานกล่าวว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระกระแสรับสั่งให้ดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการสูบน้ำออกจากถ้ำหลวงและหนองน้ำพุในครั้งนี้อย่างเต็มที่ ทางรัฐบาลจึงเข้ามาดูแล โดยในพื้นที่ ต.โป่งผา มีจำนวน 2 จุด พื้นที่เกษตร นาข้าวประมาณ 800 ไร่ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเร่งสูบน้ำออกไปลงน้ำมะแล้วลงน้ำรวก ก่อนไหลลงสู่แม่น้ำโขงรวมระยะทาง 46 กม.

จากการตรวจสอบที่บริเวณบ้านผาฮี้ ซึ่งอยู่ทางทิศใต้ของถ้ำหลวง หรือที่เรียกว่ามาตินพอยท์ พบว่ายังมีจุดที่มีน้ำไหลเข้าถ้ำ ความยาวประมาณ 150 ม. วันนี้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายเข้าไปทำบายพาสทางไหลของน้ำ ไม่ให้ไหลเข้าถ้ำ และหากสามารถผันน้ำตรงจุดนี้ไม่ให้ไหลเข้าถ้ำได้ จะทำให้หยุดน้ำไม่ไห้ไหลเข้าถ้ำได้ประมาณ 1,300 ลบ.ม.ต่อวินาที ซึ่งในวันนี้จะทำให้สำเร็จ  โดยปฏิบัติการช่วยเหลือในครั้งนี้จะให้ประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด และขอแจ้งให้เกษตรกรที่ได้รับความเสียหายไปลงทะเบียนได้ในพื้นที่ของตนเอง โดยจะมีเจ้าหน้าที่คอยรับแจ้งเพื่อจะได้ให้การช่วยเหลือต่อไป

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง