ประเด็นคือ – การให้บริการแท็กซี่โอเคผ่านแอปพลิเคชันของกรมการขนส่งทางบก ซึ่งเดิมมีกำหนดจะเปิดภายในปลายปีนี้ แต่ล่าสุดพบว่า แท็กซี่ยังเข้าร่วมโครงการไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ทำให้ต้องเลื่อนการให้บริการออกไปเป็นปีหน้า
หลังพัฒนาแอปพลิเคชันแท็กซี่โอเค เพื่อให้บริการแท็กซี่ผ่านแอปพลิเคชั่น โดยตั้งเป้าจะต้องให้บริการได้ก่อนสิ้นปีนี้ แต่ล่าสุด กรมการขนส่งทางบก ยังไม่สามารถเปิดให้บริการได้ เนื่องจากมีแท็กซี่เข้าร่วมโครงการไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่ 10,000 คัน
นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า โครงการแท็กซี่ โอเค (Taxi OK) เพื่อยกระดับมาตรฐานตัวรถและงานบริการของแท็กซี่ ต้องเลื่อนเปิดให้บริการออกไป จากเดิมในปลายปี 2560 เป็นประมาณต้นเดือนมกราคม 2561 เนื่องจากต้องการให้รถแท็กซี่เข้าร่วมโครงการฯแบบสมัครใจมากกว่าภาคบังคับ
เบื้องต้น ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปให้คำแนะนำ และให้บริการเรื่องการเชื่อมโยงข้อมูลที่ศูนย์บริการแท็กซี่ เพื่ออำนวยความสะดวกและกระตุ้นให้ผู้ขับรถแท็กซี่เข้าร่วมโครงการมากขึ้น
สำหรับโครงการนี้ สหกรณ์แท็กซี่ทุกแห่ง ได้ตอบรับแล้ว และมีรถแท็กซี่แจ้งความจำนงที่จะเข้าร่วมโครงการ 20,000-30,000 คัน / โดยในจำนวนนี้ มีรถแท็กซี่จดทะเบียนเข้าโครงการหลายพันคัน เป็นแท็กซี่ภาคสมัครใจ เนื่องจากรถยังไม่หมดอายุ
ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างการปรับปรุงอุปกรณ์ส่วนควบ เช่น การติดตั้งจีพีเอส ระบบกล้องถ่ายภาพภายในรถแบบ Snap Shot ปุ่มฉุกเฉินและตรวจสอบการเชื่อมโยงข้อมูล เป็นต้น
ส่วนกรณีผู้ประกอบการแท็กซี่ ร้องเรียนว่าค่าติดตั้งและบำรุงอุปกรณ์ส่วนควบตามกำหนดมาตรฐานใหม่ มีราคาสูงเกินกว่าที่จะจ่ายไหวนั้น โครงการแท็กซี่โอเคไม่ได้บังคับให้รถแท็กซี่ปัจจุบันเข้าร่วม ยกเว้นรถแท็กซี่ที่จดทะเบียนใหม่ ซึ่งถือเป็นภาคบังคับ โดยรถใหม่จะมีอุปกรณ์ส่วนควบติดตั้งมาด้วยหรือสามารถหาแหล่งเงินกู้ติดตั้งอุปกรณ์ได้พร้อมการซื้อรถเลย
สำหรับกฎกระทรวง บังคับให้รถแท็กซี่ จดทะเบียนใหม่ ต้องเข้าโครงการนี้ ตั้งแต่วันที่ 9 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ขณะนี้จึงมีรถแท็กซี่ป้ายแดงวิ่งบริการรับส่งผู้โดยสารจำนวนมาก ที่ยังไม่มาเข้าโครงการ
