แสนสิริ เดินหน้าสนับสนุนนโยบายเพื่อสร้างความเท่าเทียมทางเพศ ล่าสุด CEO อย่างเศรษฐา ทวีสิน ได้ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว ระบุว่าอนุมัติให้พนักงานที่ต้องการผ่าตัดแปลงเพศ สามารถลาหยุดงานได้ 30 วัน มีผลเริ่มตั้งแต่ 1 ม.ค. 2565
นอกจากนี้ยังบอกอีกว่า นโยบายนี้เสมือนเป็นของขวัญปีใหม่สำหรับพนักงาน ใจความว่า “บางทีของขวัญปีใหม่สำหรับบางคนอาจจะไม่ใช่ของมีค่าหรูหรา แต่เป็นความเท่าเทียมและการยอมรับความแตกต่าง”
สำหรับการผ่าตัดแปลงเพศ ยังเป็นที่ถกเถียงว่าเป็นการลาประเภทไหนกันแน่ ในข้อกฎหมายไม่ได้มีการระบุไว้อย่างชัดเจน กลายเป็นว่าเป็นเรื่องของนโยบายของแต่ละบริษัท ซึ่งบางบริษัทมองว่าไม่ใช่การลาป่วย ฝ่ายบุคคลไม่มีนโยบายให้พนักงานลาหยุด ทั้งที่การผ่าตัดแปลงเพศนั้นต้องใช้เวลาในการพักฟื้นนาน
สำหรับแสนสิริ นับว่าเป็นหนึ่งในองค์กรที่สนับสนุนกลุ่ม LGBTQ+ มาโดยตลอด โดยเป็น 1 ใน 200 บริษัทชั้นนำทั่วโลกที่ลงนามในมาตรฐานข้อปฏิบัติทางธุรกิจขององค์การสหประชาชาติ (UN) เพื่อลดการเลือกปฏิบัติและแบ่งแยกทางเพศในสถานที่ทำงาน
จากก่อนหน้านี้ แสนสิริได้ออกนโยบายอนุมัติให้พนักงาน LGBTQ สามารถลาแต่งงานได้ 7 วันเท่ากับพนักงานชาย-หญิง ล่าสุดออกนโยบายอนุญาตให้พนักงานลาผ่าตัดแปลงเพศได้ถึง 30 วัน นับว่าเป็นอีกก้าวของบริษัทไทยที่สนับสนุนความเท่าเทียมให้กับพนักงานทุกเพศในองค์กร
ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทที่เคยออกนโยบายในลักษณะนี้ ได้แก่ DTAC โดยในปี 2564 ได้อนุญาตให้พนักงาน LGBTQ ลาเพื่อผ่าตัดแปลงเพศ ได้ไม่เกิน 30 วันต่อปี และยังลาสมรสได้ด้วยเช่นกัน
หรือจะเป็นบริษัทในต่างประเทศ อย่างบริษัท ทาทา สตีล บริษัทผู้ผลิตเหล็กในเครือทาทา กรุ๊ป ของอินเดีย ได้ออกนโยบายให้พนักงาน LGBTQ สามารถแปลงเพศและพักฟื้นได้ 30 วัน และยังช่วยเหลือให้เข้าถึงแหล่งเงินช่วยเหลือสำหรับการผ่าตัดอีกด้วย
นี่คือตัวอย่างบริษัทต่างๆ ในปัจจุบันที่ได้ให้ความสำคัญกับความแตกต่างทางเพศ สะท้อนผ่านนโยบายการลาหยุดงาน ช่วยให้พนักงานไม่ว่าจะเพศไหนก็ได้รับสวัสดิการที่จำเป็นจริงๆ ส่งเสริมขวัญและกำลังใจในการทำงาน สร้างมาตรฐานใหม่ให้แก่บริษัทยุคใหม่ให้เห็นถึงคุณค่าของพนักงานทุกคนอย่างเท่าเทียม
ที่มา :
https://www.facebook.com/todaybizview/photos/a.111593034412889/243864957852362










