
ประเด็นคือ – ผัวเมียวัยชราชาวพิษณุโลก ป่วยอัมพฤกษ์ทั้งคู่ อยู่กันลำพัง 2 คน ยายวัย 75 ซื้อแกงส้มปลาดุกมากิน กลืนข้าวติดคอจนสำลักนอนแน่นิ่ง สิ้นใจตายคาบ้าน
วันที่ 30 พ.ย. 2560 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพิษณุโลก รับแจ้งมีคนกินอาหารสำลักติดหลอดลมเสียชีวิต ที่เกิดแหตุซึ่งเป็นบ้านครึ่งไม้ครึ่งปูน 2 ชั้น บริเวณห้องครัวชั้นล่างหลังบ้านพบศพผู้เสียชีวิต ทราบชื่อคือ นางวาด ทองสุก อายุ 75 ปี สภาพนอนหงายอยู่ที่พื้น ตามเนื้อตัวเริ่มซีดขาวคาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 1 ชม.
โดยมีนายเฉลียว ทองสุก อายุ 79 ปี สามี ซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน นั่งเฝ้าดูร่างอันไร้วิญญาณไม่ห่างกาย อยู่ในอาการโศกเศร้าเสียใจ ตรวจสอบที่โต๊ะกับข้าวพบจานข้าวสวยและแกงส้มปลาดุก ขนมจีนน้ำยา ถูกแกะแบ่งกินไปแล้วส่วนหนึ่ง และมีเศษอาเจียนชิ้นเนื้อปลาดุกตกอยู่ใกล้กัน

จากการสอบถาม นายเฉลียว สามีของผู้เสียชีวิต ทราบว่า ตนเองและภรรยาพักอาศัยอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าวเพียงสองคนตายาย ส่วนบุตรสาวทำงานอยู่ที่ จ.อุตรดิตถ์ จะกลับมาเยี่ยมที่บ้านทุกอาทิตย์ โดยตนเองและภรรยาป่วยเป็นโรคอัมพฤกษ์มาประมาณ 7 ปีแล้ว แต่ยังพอช่วยเหลือหากับข้าวกับปลากินเองได้ บางวันหลานๆ ก็จะทำมาส่งให้กินบ้าง ขณะเกิดเหตุได้แกะกับข้าวที่หลานนำมาให้กินตามปกติ คือ แกงส้มปลาดุกและขนมจีนน้ำยาของโปรดภรรยา
โดยภรรยากินข้าวกับแกงส้มปลาดุกได้เพียง 3 คำ ก็รู้สึกติดคอหายใจไม่ออกและสำลักเศษอาหารออกมา ไออย่างรุนแรง ตนเห็นท่าไม่ดีได้พยายามช่วยเอามือทุบที่หลังเบาๆ ให้สำลักออกมา แต่ภรรยาร้องบอกว่าเจ็บก่อนจะแน่นิ่งล้มลงไป ด้วยความตกใจตนพยายามเดินไปร้องเรียกหลานข้างบ้านให้รีบมาดู ก็พบว่าภรรยาคู่ชีวิตสิ้นลมไปอย่างสงบแล้ว











