
หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทยโวยถูกเอาเปรียบทุกทางยื้อเวลาปลดล็อกจนพรรคตัวเองพร้อม เตรียมแจ้งความ 4 รัฐมนตรีผู้บริหารพรรคพลังประชารัฐก่อนปีใหม่ ชี้ขนาดตลาดย้ายพรรคปิด คนของพรรคยังถูกดูดให้ลาออกไม่ลงสมัคร
วันที่ 12 ธ.ค. พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ให้สัมภาษณ์ระหว่างเดินพบปะประชาชนและหาสมาชิกพรรคที่ตลาดตึกซัน เขตจตุจักร ถึงประเด็นการปลดล็อกการเมืองว่า ทำไมไม่ปลดล็อกก่อนหน้านี้ ทั้งที่ควรจะให้ทำกิจกรรมได้ตั้งนานแล้ว เป็นการเอาเปรียบทางการเมือง สังเกตได้จากพรรคพลังประชารัฐขึ้นป้ายหาเสียงทันทีที่มีคำสั่งปลดล็อก ทำให้เห็นชัดเจนว่าการที่รัฐมนตรีไม่ได้ประกาศลาออกขณะที่มาสังกัดพรรคการเมืองนั้น ทำให้รับรู้ความเคลื่อนไหวทางการเมืองมากกว่าพรรคอื่นและมีการใช้อำนาจของตำแหน่งชิงความได้เปรียบ โดยก่อนปีใหม่จะแจ้งความเอาผิด 4 รัฐมนตรีที่สังกัดพรรคพลังประชารัฐ อย่างไรก็ตามฝ่ายประชาธิปไตย จะไม่ทำอะไรให้บ้านเมืองต้องวุ่นวายอย่างแน่นอน

“มีการอาศัยโอกาสอาศัยตำแหน่งนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี เอาเปรียบพรรคการเมืองอื่นๆ ไม่เป็นไรเดี๋ยวก่อนปีใหม่ผมจะให้ของขวัญ ผมจะแจ้งความดำเนิคดีกับพรรคพลังประชารัฐ จะไปแจ้งความดำเนินคดี กับ 4 กุมาร มาเป็นผู้บริหารพรรค จะไปแจ้งคนที่ดูด ๆ ใครเขามา จะแจ้งความข้อหาค้ามนุษย์ และฟอกเงิน และกระทำความผิด พ.ร.บ.เลือกตั้งเป็นของขวัญปีใหม่ให้พวกนี้”
ส่วนความพร้อมของพรรคเสรีรวมไทย ขณะนี้ได้วางผู้สมัคร ส.ส.เกือบทุกจังหวัดแล้ว ขาด 1 จังหวัด ซึ่งพบปัญหาพลังดูดให้ผู้สมัครพรรคลาออก โดยหลังจากนี้จะแจ้งนโยบายให้กับผู้สมัครพรรคให้วางแนวทางหาเสียงเน้นนโยบาย 6 หยุด คือ 1 หยุดความยากจน แก้ปัญหาปากท้อง สร้างความกินดีอยู่ดี 2 หยุดคอรัปชั่น ฉ้อราษฏร์บังหลวง 3 หยุดยาเสพติด ขจัดผู้มีอิทธิพล 4 หยุดเผด็จการ และปฏิรูปทหาร 5 หยุดไฟใต้สร้างสังคมสันติสุข และ 6 หยุดสงครามสีเสื้อสร้างความปรองดองก้าวสู่อนาคต
ขณะที่บัตรเลือกตั้งของ กกต. ที่ไม่ระบุโลโก้พรรค หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวว่า การแข่งขันกีฬายังมีการแบ่งเสื้อสี และหมายเลขผู้เล่น เพื่อความชัดเจนในกฎกติกา แต่บัตรเลือกตั้งนี้ทำให้เกิดความสับสนในการจดจำหมายเลขผู้สมัคร เพราะแต่ละเขตต้องมีการจับหมายเลข ซึ่งแต่ละเขตผู้สมัครพรรคจะได้หมายเลขไม่เหมือนกัน ทำให้ประชาชนเกิดความสับสน ทั้งที่บัตรเลือกตั้งควรมีโลโก้พรรค ชื่อพรรค หมายเลขผู้สมัครและรายชื่อผู้ที่จะเสนอเป็นนายกรัฐมนตรีของแต่ละพรรค









