คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท.เขต 3 เตรียมสรุปข้อมูลผลการตรวจสอบโรงเรียนที่แจ้งรายชื่อนักเรียนไม่ตรงกับข้อมูลของสพฐ.เพื่อหวังเงินอุดหนุนและเป็นการยกระดับผู้บริหารให้สามารถย้ายไปดำรงตำแหน่งในโรงเรียนที่มีขนาดใหญ่ขึ้น เบื้องต้นพบมีโรงเรียนในพื้นที่รับผิดชอบพบความผิดปกติ 4 จังหวัดรวม 4 โรงเรียน
เมื่อวันที่ 15 พ.ย.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจภูธรภาค 3 และเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ปปท.) เขต 3 เข้าตรวจสอบจำนวนนักเรียนโรงเรียนสอนแก้วว่องไววิทยา ตำบลเดิด อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร หลังได้รับข้อมูลว่ามีการแจ้งรายชื่อนักเรียนไม่ตรงข้อมูลของ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)
พ.ต.ท.สามารถ ไชยณรงค์ ผอ.ป.ป.ท.เขต 3
พ.ต.ท.สามารถ ไชยณรงค์ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท.เขต 3 ระบุว่าจากการตรวจสอบ พบว่า โรงเรียนสอนแก้วว่องไววิทยา มีจำนวนนักเรียนที่เรียนจริง 443 คน แต่กลับรายงานจำนวนนักเรียนไปยังสำนักพื้นที่มัธยมศึกษาเขต 28 และสพฐ จำนวน 604 คน ซึ่งต่างกันกว่า 100 คน ซึ่งการแจ้งจำนวนนักเรียนไม่ตรงความเป็นจริง นอกจากจะหวังเงินส่วนต่างค่าของค่าอุดหนุนแล้วยังเป็นการยกระดับให้ผู้บริหารสามารถโอนย้ายไปดำรงตำแหน่งโรงเรียนขนาดใหญ่ ซึ่งต้องผ่านการบริหารโรงเรียนที่มีจำนวนนักเรียน 500 คนขึ้นไป
ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท.เขต 3 ระบุว่า ขณะนี้พบโรงเรียนที่เข้าข่ายแจ้งรายชื่อนักเรียนเกินจริง ในพื้นที่รับผิดชอบ 4 จังหวัดรวม 4 โรงเรียน คือที่จังหวัดชัยภูมิ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี และจังหวัดยโสธร ซึ่งส่วนใหญ่จะปัญหาที่พบจะมีลักษณะเหมือนกันคือ แจ้งยอดนักเรียนที่สูงเกินจริง เพื่อต้องการขอรับเงินอุดหนุนรายหัวจากภาครัฐ โดยในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น จะได้รับเงินอุดหนุนคนละ 3,500 บาท ต่อปี ชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายคนละ 3,800 บาท ต่อปี
อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้จะสรุปข้อมูลให้กับกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงและเรียกผู้มีส่วนเกี่ยวข้องมาชี้แจ้งข้อเท็จจริงต่อไป
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง เพิ่มเติม:
