ประเด็นคือ – คุณตาวัย 82 ปี โดนแก๊งต้มตุ๋นหลอกเปิดฉลาก ได้รางวัลบังคับซื้อ สูญเงินไปหลายพัน ราคาจริงแค่หลักร้อย
วันที่ 9 ม.ค.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้รับแจ้งจาก นายสิทธิชัย นามทอง กำนัน ต.หัวงัว อ.สนม จ.สุรินทร์ ว่า มีแก๊งต้มตุ๋นหลอกลวงออกอาละวาด หลอกคนในหมู่บ้านหัวงัว หมู่ที่ 8 ต.หัวงัว อ.สนม จ.สุรินทร์ โดยหลอกให้เปิดฉลาก ถ้าเปิดเจอของรางวัลห้ามคืนต้องซื้อเท่านั้น แถมซื้อในราคาที่เกินจริงมาก โดยผู้ตกเป็นเหยื่อ คือ คุณตาวัย 82 ปี จับฉลากแลกของรางวัลได้ สบู่ 2 ก้อน และนาฬิกา 1 เรือน แต่ถูกบังคับให้จ่ายเป็นเงินสด 2,500 บาท แต่คุณตามีไม่พอ ควักทั้งกระเป๋าจนเกลี้ยงมีแค่ 1,200 บาท
ผู้สื่อข่าวรุดลงพื้นที่ ตรวจสอบไปยังที่ทำการผู้ใหญ่บ้านหัวงัว ได้พบกับ นางวงเดือน พันธ์มณี ผู้ใหญ่บ้านหัวงัว เปิดเผยว่า ชาวบ้านที่ตกเป็นเหยื่อและโดนหลอกสูญเงิน คือ คุณตากันหา ชมชื่น อายุ 82 ปี อยู่บ้านเลขที่ 95 บ้านหัวงัว หลังรู้ตัวว่าโดนแก๊งต้มตุ๋นหลอกลวง น.ส.นวลใย ชมชื่น ได้รีบวิ่งมาแจ้งให้ตนทราบในฐานะผู้ใหญ่บ้าน
คุณตากันหา ชมชื่น อายุ 82 ปี เปิดเผยว่า บ้านอยู่ห่างไกลจากชุมชนและหมู่บ้าน พอสมควร ขณะที่กำลังนอนเล่นอยู่ที่บริเวณหน้าบ้านเพียงลำพัง ได้มีรถยนต์กระบะ สีขาว ยี่ห้อโตโยต้า วิ่งและเลี้ยวเข้ามาภายในบ้าน ตอนแรกนึกว่าเป็นลูกชาย แต่สักพักได้มีผู้หญิงจำนวน 2 คน รูปร่าง อวบ ผมยาวประบ่า และมีผู้ชายอีก 1 คน เป็นคนขับรถยนต์คันดังกล่าว โดยผู้หญิงเดินเข้ามาหาตน และบอกให้จับฉลากฟรีได้รางวัลไม่เสียเงินแม้แต่บาทเดียว
ตนจับฉลากไปสองอันปรากฏว่า ไม่ได้รางวัลอะไรเลย สักพักผู้หญิงคนดังกล่าวก็บอกให้จ่ายเงิน 2,500 บาท ค่าที่ได้รางวัลเป็นนาฬิกา โดยคุณตายืนยันว่าจับฉลากไม่ได้รางวัลอะไร แต่ผู้หญิงก็ยังบอกว่าได้รางวัลใหญ่ต้องเสียเงิน ด้านลูกเขยที่อยู่หลังบ้านก็โดนผู้หญิงในแก๊งเดียวกันประกบ และพูดจาลักษณะถามว่า “มีคนมาขายสบู่ไหม” จนลูกเขยเอะใจ รีบเดินออกมาหาตนเองจึงทราบว่า ตนถูกหลอกให้จับฉลาก
โดยลูกเขยไม่ยอมจ่ายเงินให้ เพราะเห็นว่านาฬิกาเรือนดังกล่าว มีราคาเพียง 100 กว่าบาท จนได้มีปากเสียงกับแก๊งต้มตุ๋นอย่างรุนแรง จากนั้นลูกเขยได้บอกกับตนว่าอย่าเพิ่งจ่ายเงิน ก่อนพากันไปแจ้งผู้ใหญ่บ้าน เมื่อลูกเขยกลับมาบ้านพร้อมกับภรรยา และนายสมนึก พิมพ์ลา สารวัตรกำนัน ต.หัวงัว ปรากฏว่า แก๊งต้มตุ๋นได้หนีไปแล้ว
จากการสอบถาม คุณตากันหา ชมชื่น ทราบว่า ยอมจ่ายเงินให้แก๊งต้มตุ่นไปเป็นเงินสด จำนวน 1,200 บาท สาเหตุที่ยอมจ่าย เพราะผู้ชายที่อยู่ในแก๊งได้มีการพูดจาข่มขู่ และบอกว่าจะเอาเงินทั้งหมดเท่าที่มี เมื่อได้เงินก็พากันขับรถยนต์หนีออกไป โดยมุ่งหน้าไปเส้นทาง อ. รัตนบุรี จ.สุรินทร์ ทิ้งเพียง สบู่ 2 ก้อน กับนาฬิกาเรือนทอง จำนวน 1 เรือน ราคาเรือนละร้อยกว่าบาทไว้โดยพรุ่งนี้ผู้เสียหายจะเข้าแจ้งความที่ สภ.สนม ต่อไป
