ประเด็นคือ – แม่พลทหารเผยไม่คาใจสาเหตุการตายของลูกหลังผลชันสูตรศพชี้ชัดแล้ว ขณะที่ผู้บังการกรมทหารปืนใหญ่ที่ 5 และผู้บังคับกองพันนำเพื่อนทหารมาช่วยงานเต็มที่
จากกรณี เพจดัง @บิ๊กเกรียน เผยแพร่เรื่องราวว่า พลทหารอดิศักดิ์ น้อยพิทักษ์ อายุ 21 ปี ทหารเกณฑ์สังกัดค่ายเทพสตรีศรีสุนทรกองพลทหารราบที่ 5 ต.กะปาง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ชาว ต.หัวตะพาน อ.ท่าศาลาจ.นครศรีธรรมราช เสียชีวิตปริศนาที่โรงพยาบาลค เมื่อคืนวันที่ 11 พ.ย. ทำให้คลางแคลงใจจนต้องไปแจ้งความกับ ร.ต.อ.ฐิติวัฒน์ กิตติวรานนท์ ร้อยเวร สภ.กะปาง ร้องเรียนผ่านเพจดัง
ต่อมานางเตือนใจ น้อยพิทักษ์ อายุ 52 ปี แม่ผู้ตาย เปิดเผยว่า ลูกชายเพิ่งไปเป็นทหารสังกัดค่ายดังกล่าวได้แค่ 11 วัน ก่อนได้รับแจ้งว่าถูกนำตัวไปส่ง รพ.เพราะหัวใจวายเฉียบพลัน แต่พอไปดูสภาพกลับพบว่ามีรอยปูดบวมช้ำเต็มตัวไปหมด คล้ายโดนทุบตีหรือจับซ้อม อีกทั้งร่างกายก็แข็งแรงดีด้วย
ล่าสุด ภายหลังจากการชันสูตรศพพลทหารอดิศักดิ์ อย่างละเอียดที่ศูนย์นิติเวชโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา จากนั้นศพของพลทหารอดิศักดิ์ ได้ถูกนำมาบำเพ็ญกุศลที่บ้านโดยมีนางเตือนใจ คงสนิท มารดาและครอบครัวของพลทหารอดิศักดิ์รอรับ พร้อมกับนายทหารระดับสูงมาอำนวยความสะดวกอย่างใกล้ชิด นอกนั้นยังมีเพื่อนพลทหารที่อยู่ในกองพันเดียวกับพลทหารอดิศักดิ์มาร่วมรดน้ำศพด้วยจำนวนมาก
พันโทเอกวริทธ์ ชอบชูผล ผู้บังคับกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 15 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 5 ชี้แจงว่าพลทหารอดิศักดิ์เริ่มมีอาการปวดท้องได้ชะลอการฝึกมาก่อนหน้าแล้ว 3 วัน โดยระหว่างนั้นได้ไปพบแพทย์ขั้นตอนและแพทย์ได้สั่งยามารักษาตามอาการตามขั้นตอนจนวันที่ 11 มีอาการอาเจียนและปวดท้องรุนแรงจึงนำเข้ารักษาตัวที่ รพ.จนกระทั่งเสียชีวิตลง
ขณะที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ได้ออกหนังสือรับรองการตายโดยแพทย์หญิงชลิดา ชุมยวง ได้ระบุโรคที่เป็นสาเหตุการตายคือ 1.PERITONITIS 2.PEPTIC ULCER PERFORATION กล่าวคือสาเหตุการตาย คือ ติดเชื้อในช่องท้อง จากลำไส้ทะลุ ทำให้มีของเหลวและอุจจาระปนในช่องท้องจำนวนมาก เนื่องจากอาการนี้ไม่ได้แก้ไข จึงทำให้เกิดการติดเชื้อตามมา ส่วนการตรวจการติดเชื้อจากเลือด ไม่สามารถตรวจได้เนื่องจาก ศพมีสภาพที่ค่อนข้างเน่า
ส่วนเรื่องที่ญาติสงสัย คือ การทำร้ายร่างกาย ไม่พบว่ามีการทำร้ายร่างกายในทุกๆ อวัยวะ ร่างกายไม่มีบาดแผล กะโหลกศรีษะปกติ แขนขาปกติ กระดูกซี่โครงปกติ ส่วนอวัยวะภายนอก ที่ฟกช้ำ ไม่ได้เกิดจากการทำร้ายร่างกาย แต่อาจเกิดจาก การติดเชื้อ ทำให้ศพมีสภาพสีคล้ำ
