
ญาติร้อง ! พลทหารถูกธำรงวินัยโหด รุ่นพี่ 3 คนรุมซ่อมปางตาย หัวใจหยุดเต้น สมองขาดออกซิเจน หมอระบุโอกาสรอดแค่ 30 เปอร์เซ็นต์ ญาติวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบและช่วยย้ายรพ.
วันที่ 23 สิงหาคม 2561 ผู้สื่อข่าวได้รับเรื่องร้องเรียนจาก น.ส.กาญจนาภรณ์ สีหะวงค์ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 29/9 ม.9 ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ว่าหลานชายของตนเองชื่อนายคชา พะชะ อายุ 22 ปี ทหารเกณฑ์สังกัดหน่วยทหารแห่งหนึ่งใน จ.ลพบุรี ได้รับบาดเจ็บถูกหามส่งโรงพยาบาลอานันทมหิดล เมื่อเวลา 22.00 น. ของวันที่ 21 สิงหาคม ที่ผ่านมา หลังมีอาการน็อกระหว่างฝึกซ้อม เนื่องจากหัวใจหยุดเต้น ซึ่งทางแพทย์ได้ทำการปั๊มหัวใจ พร้อมเร่งส่งห้องไอซียูใส่เครื่องช่วยหายใจ ซึ่งแพทย์บอกว่าโอกาสรอดแค่ 30 เปอร์เซ็นต์ ให้ทางครอบครัวทำใจ แต่ถ้าฟื้นขึ้นมาก็อาจจะไม่เหมือนเดิม เพราะสมองขาดออกซิเจนนาน หัวใจหยุดเต้นไป 2-3 ครั้ง ประกอบกับตอนมาถึงโรงพยาบาลมีอาการไตวายด้วย
จากนั้นในช่วงสายของวันที่ 22 ส.ค. ได้มีนายทหารคนหนึ่งซึ่งมียศพันโท โทรศัพท์ติดต่อมายอมรับว่า นายคชาไม่ได้น็อกไปเอง มีพลทหารรุ่นพี่ 3 คน ทำการซ่อมจริง ตอนนี้สามารถจับทั้ง 3 คน ขังคุกทหารไว้แล้ว แต่ยังไม่มีการดำเนินคดี เบื้องต้นทั้ง 3 คน รับสารภาพว่าซ่อมรุ่นน้องจริง นายทหารคนดังกล่าวจึงบอกว่า พร้อมที่จะรักษาและดูแลอาการอย่างเต็มที่ แต่ไม่อยากให้เป็นข่าว

น.ส.กาญจนาภรณ์ กล่าวต่อว่า หลังจากญาติได้เข้าเยี่ยมอาการนายคชา เบื้องต้นพบว่าบริเวณหน้าอกและเอวมีรอยบวมช้ำ อาการทรงตัวยังไม่ดีขึ้น ทางครอบครัวจึงมีความประสงค์อยากย้ายไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลอื่น แต่นายทหารยศพันโทคนดังกล่าวเกลี้ยกล่อมแล้วถามว่า ครอบครัวมีเงินพร้อมที่จะรักษาหรือไม่ และพูดจาเหมือนกับว่าคนป่วยจะไม่ฟื้น ตนจึงวอนขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ และช่วยเร่งดำเนินการย้ายหลานชายไปรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนด้วย เกรงว่าหากปล่อยไว้นานหลานชายตนจะยิ่งทรุดหนัก
สำหรับนายคชา พะชะ อายุ 22 ปี มีภรรยาตั้งท้อง และลูกสาว อีก 1 คน ก่อนที่จะเข้าประจำการเป็นทหารเกณฑ์เมื่อวันที่ 1 พ.ค. 2560 และได้เข้าไปอยู่ในหนักสูตรส่งทางอากาศ คือการกระโดดร่ม จนกระทั่งมาเกิดเหตุดังกล่าว ซึ่งครั้งล่าสุดที่ได้มีการพูดคุยกัน นายคชา ยืนยันว่า หลังจากที่ปลดประจำการทหารก็จะกลับไปบวชทดแทนบุญคุณพ่อแม่ แต่กลับต้องพบเจอเหตุการณ์นี้เสียก่อน ส่วนครอบครัวต่างก็ทำใจไม่ได้ และอยากฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยให้ความเป็นธรรมด้วย
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด น.ส.รุ่งฤดี สิหะวงศ์ มารดาของ นายพลทหาร ได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในข้อหา ทำร้ายร่างกายเป็นเหตุทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยเบื้องต้น ได้รับการแจ้งว่า ทั้งสามคนรับสารภาพว่าได้ซ่อมรุ่นน้องจริง โดย นายพลทหารทั้ง 3 พร้อม นายทหารรัฐธรรมนูญ ของ หน่วยรบพิเศษ ร.31 พัน 3 รอ.จ.ลพบุรี เข้าพบ ร.ต.อ.วิชัย แสนบุตร รอง.สารวัตร สภ.เมืองลพบุรี เพื่อให้ปากคำ โดยมี พ.ต.อ.ศักดิ์ชัย เกษโกมล ผกก.สภ.เมืองลพบุรี กำกับดูแลการสอบสวนอย่างใกล้ชิด










