แล้งกระทบหนัก เกษตรกรโคราชดิ้นหาทางรอด

ประเด็นคือ- โคราชส่อภัยแล้งกระทบกระบือเริ่มขาดน้ำ ผู้เลี้ยงพาหากินในคลองชลประทานแห้งขอด ขณะที่เกษตรกรไม่สามารถทำการเกษตรได้ พลิกวิกฤติเป็นโอกาส ขุดไหลบัวนาทำเมนูขนมหวานขาย รายได้งาม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (31 มี.ค. 61) ในหลายพื้นที่ของ จ.นครราชสีมา เริ่มเข้าสู่สถานการณ์ภัยแล้ง และกำลังขยายวงกว้างออกไป ซึ่งนอกจากจะส่งผลกระทบต่อเกษตรกรที่ไม่มีน้ำทำนา ทำไร่ ทำสวนแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อกลุ่มผู้เลี้ยงกระบือหรือควายของชาวบ้านใน ต.สาหร่าย อ.ชุมพวง จ.นครราชสีมา ที่ขาดแคลนแหล่งอาหารและแหล่งน้ำสำหรับเลี้ยงควาย 2 ฝูง จำนวนกว่า 20 ตัว ไปด้วย

ทำให้ชาวบ้านต้องพาฝูงควายของตัวเองเดินหาหญ้าและแหล่งน้ำกินไกลกว่า 5 กม. เพราะแหล่งน้ำที่เคยมีตามทุ่งธรรมชาติแห้งขอดไปหมด

นางบังอร ดีพิมาย อายุ 65 ปี บ้านเลขที่ 178 ต.สาหร่าย อ.ชุมพวง จ.นครราชสีมา ชาวบ้านผู้เลี้ยงควายเผยว่า ภัยแล้งปีนี้เริ่มมีผลกระทบตั้งแต่ต้นปี แหล่งน้ำที่เคยมีตามทุ่งนาเหือดแห้งไปหมด หญ้าก็ไม่มีขึ้นเพราะไม่มีน้ำ จนต้องต้อนฝูงควายไปหากินตามคลองชลประทาน ที่ยังคงพอมีน้ำเหลืออยู่ติดก้นคลอง เพราะตรงจุดนั้นมีหญ้าขึ้นอยู่ด้วยช่วยให้มีกินได้บ้าง แต่คาดว่าน้ำที่เหลือติดก้นคลองชลประทาน น่าจะเหลือใช้เลี้ยงควายได้ไม่เกินครึ่งเดือนนี้ คงต้องต้อนควายหากินไปเรื่อยๆ และต้องคอยระวังไม่ให้ฝูงควายข้ามถนนไปมา เนื่องจากเสี่ยงอันตรายรถชนที่อาจจะเกิดขึ้น

คาดว่าหากไม่มีฝนตกลงมาในช่วงกลางเดือนเมษายน จะส่งผลให้แหล่งน้ำต่างๆ ที่มีอยู่ในพื้นที่แห้งขอดจนหมด ซึ่งส่งผลกระทบกับเกษตรกรผู้เลี้ยงควายหลายรายใน อ.ชุมพวง จ.นครราชสีมา อย่างแน่นอน

ขณะที่สถานการณ์ภัยแล้งใน ต.โนนเต็ง อ.คง ปริมาณน้ำเริ่มแห้งขอด ชาวบ้านในพื้นที่ยากแก่การทำเกษตร จึงออกตระเวนขุดไหลบัวนาที่อยู่ใต้ดิน นำขึ้นมาขายสร้างรายได้เสริมให้กับครอบครัวได้เป็นอย่างดี

ไหลบัว หรือเรียกว่า หลดบัว คือส่วนที่งอกออกมาจะเจริญไปเป็นลำต้นใหม่ มีลักษณะเป็นก้านยาว สีขาวนวล แข็ง กดแล้วไม่ยุบ หากนำมาประกอบอาหารต้องลอกเปลือกนอกออกก่อน ชาวบ้านนิยมนำมาทำแกงส้มไหลบัวใส่กุ้งสด ผัดไหลบัวกุ้งสดพริกตำใบมะกรูด ผัดไหลบัวน้ำมันหอย ส้มตำไหลบัว และบัวเชื่อม เป็นต้น

โดยนาง ปราณี สุขสม อายุ 57 ปี ชาวบ้านใน ต.โนนเต็ง อ.คง เปิดเผยว่า แหล่งน้ำในพื้นที่เริ่มแห้งขอดจนหมด ทำให้ง่ายแก่การขุดไหลบัวนาอยู่ที่อยู่ใต้ดิน ตนจึงนำจอบเสียมมาขุด โดยขุดลึกกว่า 30 ซม. ก็จะพบว่ามีไหลบัวนาอยู่ใต้ดินจำนวนมาก

โดยในแต่ละวันสามารถขุดไหลบัวนาได้ 20-30 ก.ก. หลังจากนั้นจะนำไหลบัวที่ได้ไปล้างทำความสะอาด และนำไปต้มเชื่อมใส่กับน้ำตาล เป็นเมนูขนมหวาน “บัวเชื่อม” จำหน่ายในราคาถุงละ 20 บาท ทำให้มีรายได้จากการขุดไหลบัวนาขายเฉลี่ยวันละ 300-400 บาท จึงเป็นการพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสในช่วงภัยแล้ง สร้างรายได้เสริมให้กับครอบครัวได้เป็นอย่างดี