
ต้นเดือนนี้ ผู้ป่วยโรคมะเร็งทั้งที่เป็นคนไทยและต่างชาติ ต่างไปรอคิวเพื่อรับยารักษามะเร็งจากหมอแสงกันจำนวนมาก และแม้ว่ากรมการแพทย์แผนไทยและทางเลือก รับรอง “หมอแสง” เป็นหมอพื้นบ้าน แต่หมอแสงย้ำว่า กฎหมายไทยยังล้าหลัง ไม่เอื้อต่อการผลิตยาแจกผู้ป่วย
สำราญ สุวรรณกูล วัย 58 ปี ชาวจังหวัดเพชรบูรณ์ คือผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย ที่หมอบอกว่า แทบไม่มีความหวังว่าจะหาย แต่พอกินยาสมุนไพรรักษามะเร็งของ นายแสงชัย แหเลิศตระกูล หรือ หมอแสง ได้เพียง 3 เดือน ร่างกายของเธอก็กลับมามีเรี่ยวแรงอีกครั้ง

สำราญ สุวรรณกูล ชาวจังหวัดเพชรบูรณ์
เมื่อถึงต้นเดือน หรือกำหนดแจกสมุนไพร บรรยากาศในพื้นที่ใกล้บ้านพักหมอแสง จะถูกจับจองพื้นที่อาศัยนอนชั่วคราวไม่ต่ำกว่า 3 วัน บางคนนอนในเต็นท์ รถยนต์ ทำอาหารกินไม่ต่างจากอยู่บ้าน เพราะโรงแรมในจังหวัดปราจีนบุรีเต็มหมด แต่ก็ยอมเพราะยาสมุนไพรทำให้อาการดีขึ้น
2 วัน 1 คืน คือ เวลารวมที่ผู้ป่วยโรคมะเร็งส่วนใหญ่มารอรับยาสมุนไพรเพียง 10 เม็ด แต่นั่นก็เป็นความหวังสุดท้าย กว่า 3 หมื่นคน ที่หวังว่ายาจะช่วยยับยั้งการลุกลามของมะเร็งได้

นายแสงชัย แหเลิศตระกูล หรือ หมอแสง
ขณะที่หมอแสงเปิดเผยว่า แม้จะได้รับรองให้เป็นหมอพื้นบ้านแล้ว แต่ด้วยกฎหมายที่ล้าหลัง ทั้งห้ามค้าขายในเชิงพาณิชย์ ห้ามแจกยานอกสถานที่ ก็ทำให้ผู้ป่วยโรคมะเร็งในไทยต้องดิ้นรนมารับยาถึงปราจีนบุรีเหมือนเดิม และหลังจากนี้เตรียมจะไปผลิตยาแจกให้กับประเทศเพื่อนบ้านอีกด้วย โดยหมอแสงบอกว่า ชาวลาวและกัมพูชาไม่ต้องเดินทางมารับยาถึงประเทศไทย แต่หมอแสงจะไปแจกยาให้ที่ประเทศของท่านเอง
โดยหมอแสงคาดว่าจะสามารถแจกสมุนไพรผู้ป่วยเก่าได้หมด ภายในวันที่ 4 มีนาคม 2561 ส่วนกำหนดแจกยารอบถัดไป จะเริ่มแจกตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม ถึงวันที่ 1 เมษายน 2561










