
ประเด็น – โบรกเกอร์สาวอ้างเป็นตัวแทนประกันภัย หลอกขายกรมธรรม์ผ่านทางโทรศัพท์ พบมีผู้เสียหายหลายคน รวมเป็นเงินเกือบ 2 ล้านบาท ก่อนปิดบริษัทหลบหนี
เมื่อเวลา 22.30 น. วันที่ 18 ก.ย. 60 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากเรืออากาศโท ธภัทร สิงห์โตแก้ว ว่าถูกผู้ที่อ้างตัวเป็นบริษัทตัวแทนประกันภัย หลอกให้ทำประกันรถยนต์สูญเงินเกือบ 20,000 บาท พร้อมกับนำใบเสร็จ การถูกหักเงินผ่านบัญชี รวมทั้งเอกสารต่างๆ มาแสดงเพื่อเป็นหลักฐาน
โดยเรืออากาศโท ธภัทร สิงห์โตแก้ว บอกผู้สื่อข่าวว่า เมื่อประมาณต้นเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา ตนได้รับการติดต่อทางโทรศัพท์ จาก น.ส.ดวงกมล กาบแก้ว อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากโบรกเกอร์ตัวแทนจำหน่ายประกันภัยรถยนต์หลายบริษัท เอส เอ็ม พี อินชัวร์ จำกัด ติดต่อมาให้ตนทำประกันรถยนต์ ซึ่งทาง น.ส.ดวงกมล กาบแก้ว มีการบอกข้อมูลเกี่ยวกับตัวรถของตน รวมไปถึงระยะเวลาที่ประกันภัยจะหมด โดยได้เสนอขายประกันชั้นหนึ่ง ราคา 15,757 บาท ซึ่งตนสนใจทำประกันดังกล่าว แต่ต้องการชำระเงินผ่านเคาน์เตอร์ธนาคารเท่านั้น

ต่อมา น.ส.ดวงกมล กาบแก้ว ได้ติดต่อขอให้ตน ส่งภาพเอกสารเกี่ยวกับตัวรถยนต์ เพื่อใช้ในการทำประกันไปให้ และถามว่ามีบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตหรือไม่ ซึ่งตนตอบไปว่าไม่มี แต่ด้าน น.ส.ดวงกมล กาบแก้ว ต้องการให้หาบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตให้ได้ ตนจึงขอยืมหน้าบัตรของพี่ที่รู้จัก ถ่ายรูปส่งไปให้ และได้สอบถามถึงตัวกรมธรรม์ว่า จะดำเนินการแล้วเสร็จเมื่อไหร่ ซึ่งได้รับคำตอบว่า ประมาณต้นเดือนกันยายน ซึ่งตนเองก็เริ่มแปลกใจ เพราะระยะเวลาในการทำเอกสารค่อนข้างนาน ต่อมาวันที่ 3 กันยายน ตนได้รับซองเอกสารจากบริษัทโบรกเกอร์ดังกล่าว ภายในบรรจุ หนังสือยืนยันการชำระเบี้ยประกัน ใบคำขอเอาประกัน ใบเสร็จรับเงิน สลิปการหักเงินผ่านธนาคารจำนวน 15,757 บาท ตนตกใจมากจึงโทรศัพท์ไปสอบถามเจ้าของบัตรเดบิตว่า มีการหักเงินตามจำนวนดังกล่าวหรือไม่ ซึ่งเจ้าของบัตรตอบว่า มีการหักเงินจำนวนดังกล่าวไปจริง จึงโทรศัพท์ไปสอบถามธนาคาร ถึงระบบการหักเงินดังกล่าว

โดยยืนยันว่า ไม่ได้ยินยอมให้หักเงินผ่านธนาคารทั้งสิ้นซึ่ง หลังจากจบเรื่องการหักเงิน สังเกตเห็นว่าที่ใบกรมธรรม์ ระบุยศ และชื่อของตนผิด จึงติดต่อกลับไปที่โบรกเกอร์ดังกล่าวเพื่อให้ทำการแก้ไข แต่กลับติดต่อไม่ได้อีกเลย จึงตัดสินใจโทรไปสอบถามบริษัทที่ตนเอาประกัน กลับได้คำตอบว่าทางบริษัท เอส เอ็ม พี อินชัวร์ จำกัด ไม่มีชื่อ น.ส.ดวงกมล กาบแก้ว ที่อ้างตัวเป็นโบรกเกอร์อยู่ในเครือ และเคยมีผู้เสียหายถูกฉ้อโกงจากโบรกเกอร์รายนี้ติดต่อไปแล้วหลายครั้ง ซึ่งตนมั่นใจแล้วว่าถูกหลอกแน่ จึงนำเอกสารทั้งหมดเข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.มนตรี รัตนพันธ์ รอง.สว.สอบสวน สภ.คูคต เมื่อวันที่ 13 ก.ย. ที่ผ่านมา

เบื้องต้นผู้สื่อข่าวได้ทำการค้นหาชื่อบริษัทโบรกเกอร์ดังกล่าวในระบบอินเทอร์เน็ต ก็ไปพบเว็บไซต์หนึ่ง ที่มีผู้มาตั้งกระทู้ว่าเคยถูกบริษัทเอส เอ็ม พี อินชัวร์ จำกัดและนางสาวที่อ้างตัวเป็นโบรกเกอร์ดังกล่าว หลอกเหมือนกัน และผู้สื่อข่าวได้มีการติดต่อไปยังฝ่ายกฏหมายของบริษัทประกันแห่งหนึ่งสอบถามถึงกรณีฉ้อโกงที่เกิดขึ้น ซึ่งขณะนี้มีผู้เสียหายแล้วประมาณ 143 ราย รวมเป็นเงินเกือบ 2 ล้านบาท และทางสำนักงานนายหน้าประกันวินาศภัยได้นัดผู้เสียหายคนอื่นไปรับเงินประกันคืน แต่ปรากฏว่าทางสำนักงานได้ปิดหนีไปก่อน ทางด้านผู้เสียได้จัดตั้งกลุ่มไลน์เพื่อสอบถามเรื่องที่มีโบรกเกอร์หลอกขายประกัน ว่ามีผู้เสียหายจำนวนกี่คนพร้อมทั้งรวมรวบพยานหลักฐานทั้งหมดเข้าแจ้งความกับทางตำรวจปราบปรามให้นำตัวและบริษัทที่กระทำผิดมาดำเนินต่อไป









