ประเด็นคือ – พ่อเข้าแจ้งความลูกชายหายตัวไปกว่า 10 วัน ติดต่อไม่ได้ทุกช่องทาง คาดว่าโดนแก๊งพนันฟุตบอลอุ้ม
เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (7 เม.ย. 61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมภพ ช่วยอุดม อายุ 63 ปี อาชีพทำสวน เปิดเผยว่า นายสมยศ ช่วยอุดม อายุ 27 ปี ลูกชายคนโต ซึ่งทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน ของสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬา จ.ชุมพร ได้หายตัวไป ตั้งแต่วันที่ 27 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยไม่สามารถติดต่อได้ทุกช่องทาง
สมยศ ช่วยอุดม
ขณะที่นางนวลสม จันทร์สม อายุ 53 ปี ภรรยาและเป็นแม่ของนายสมยศ กล่าวว่า ปกติลูกชายจะโทรมาคุยด้วยทุกวัน หรือไม่ก็ตนเองจะโทรไปคุยกับลูกชาย ที่เช่าบ้านพักอยู่ใน อ.เมือง จ.ชุมพร อย่างไรแล้ว ตั้งแต่วันที่ 27 มี.ค. ในช่วงเที่ยงลูกได้โทรมาบอกว่าโอนเงินมาให้แม่แล้ว พอตกเย็นแม่โทรไปหาก็ไม่สามารถติดต่อได้ จนตลอดทั้งคืนมาจนถึงวันนี้ ก็ยังไม่สามารถติดต่อได้
นายสมภพ พ่อของนายสมยศ กล่าวว่า ในวันที่ 27 มี.ค. 61 ลูกชายบอกว่าไปเก็บเงินจากลูกหนี้ ได้มา 3 แสนบาท และจะไปเก็บเงินจากลูกหนี้รายอื่นอีกก่อนจะหายตัวไป พร้อมรถกระบะโตโยต้า วีโก้ ตอนครึ่ง สีขาว ทะเบียน บม 948 ชุมพร รวมทั้งสร้อยคอทองคำ หนัก 3 บาท ตนเองได้ออกติดตาม โดยไปขอพบ พ.ท.สะอาด พาหา หัวหน้าฝ่ายข่าว ทหาร มทบ.44 ให้ช่วยติดตาม ได้ข้อมูลเพียงว่า ในวันที่ 27 มี.ค.ที่ผ่านมา รถคันดังกล่าววิ่งผ่านด่านตรวจบ้านพละ ต.มาบอำมฤต อ.ปะทิว จ.ชุมพร บนถนนเพชรเกษม ขาขึ้น กทม. มุ่งหน้า อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ แต่เมื่อไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ด่านตรวจ อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบฯ ไม่พบว่ารถคันดังกล่าวผ่านด่านตรวจแต่อย่างใด สันนิษฐานว่า รถคันดังกล่าวน่าจะหายไป ช่วง อ.ปะทิว จ.ชุมพร และ อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบฯ ซึ่งจะเป็นพื้นที่ป่าเขารอยต่อระหว่างไทยกับเมียนมา
นายสมภพ กล่าวต่อว่า นายสมยศ มีนิสัยชอบเล่นการพนันฟุตบอลออนไลน์ เคยมาขอเงินจากพ่อ 5 แสนบาท บอกว่าจะไปลงทุนเป็นเจ้ามือทำโต๊ะรับแทงฟุตบอลเมื่อหลายเดือนที่ผ่านมา มีเงินหมุนเวียนคล่องมือ แต่มีลูกหนี้ติดค้างค่าแทงพนันฟุตบอลจำนวนหนึ่ง ในวันที่หายตัวไปก็บอกว่าจะไปทวงเงินค่าแทงพนันฟุตบอล ซึ่งมีลูกหนี้ที่ติดค้างในวงเงินนับแสนบาท หลายคนคาดว่าน่าจะถูกแก๊งพนันฟุตบอลที่ติดค้างหลอกลวงให้ไปเอาเงิน และเมื่อเห็นว่านายสมยศมีทรัพย์สินติดตัวมาเยอะ จึงอุ้มไปเพื่อรีดเอาทรัพย์ หรืออาจจะฆ่าเพื่อล้างหนี้ ก่อนชิงทรัพย์ไปด้วยก็เป็นไปได้
ทั้งนี้ นายสมภพได้เข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.ธนพัฒน์ รุ่งเรืองสาคร พนักงานสอบสวน สภ.เมืองชุมพร เพื่อให้ช่วยติดตามลูกชาย ไม่ว่าจะอยู่ในสภาพใดขอให้ได้ตัวลูกคืนมาก็พอ เพราะพ่อแม่ทำใจแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูกก็ยอมรับได้ หลังจากนี้จะเดินสายขอความช่วยเหลือจากทุกหน่วยงาน ที่จะสามารถนำตัวลูกชายตนเองคืนมาได้
