กรมขนส่งฯ เลื่อนเชื่อมใบสั่งไปอีก 1 ปี

กรมขนส่งฯ เลื่อนเชื่อมใบสั่งไปอีก 1 ปี

ในประเทศ

กมล บูรณพงศ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก

กรมการขนส่งทางบก คาดบังคับเชื่อมใบสั่งกับตำรวจจราจรและเพิ่มโทษปรับใบขับขี่ได้ในปี 2563 เพราะต้องเปลี่ยนถ่ายระบบต่างๆ ควบรวมเข้าสู่ถังข้อมูลเดียวกัน 

วันที่ 29 ธ.ค. 2561 นายกมล บูรณพงศ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า การเชื่อมระบบใบสั่งกับตำรวจจราจรและเรื่องร่าง พ.ร.บ.การขนส่งทางบก ฉบับใหม่ ซึ่งเป็นการควบรวมพระราชบัญญัติ หรือ พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ. 2522 และ พ.ร.บ.การขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 ซึ่งเป็นที่เข้าใจกันว่าจะบังคับใช้กันในปีหน้านั้นหากขั้นตอนทั้งหมดเสร็จสมบูรณ์พร้อมออกประกาศราชกิจจานุเบกษาแล้วกว่าจะมีผลบังคับใช้จริงต้องเป็นปี 2563 หรือรอไปอีกหนึ่งปี เนื่องจากต้องมีห้วงเวลาของการเปลี่ยนถ่ายระบบต่างๆ ควบรวมเข้าสู่ถังข้อมูลเดียวกัน อาทิ ระบบใบขับขี่ ระบบทะเบียนรถ ไปจนถึงเรื่องการปรับใบอนุญาตรถเดิมเป็นต้น ดังนั้นเมื่อประกาศแล้วจะยังไม่มีผลในทันทีจนกว่าจะถึงเวลาทีเหมาะสม

นายกมล กล่าวว่า สำหรับความคืบหน้านั้นขณะนี้กรมการขนส่งทางบกได้พัฒนาระบบเชื่อมข้อมูลใบสั่งกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติไว้เรียบร้อยแล้วขณะนี้อยู่ระหว่างรอความพร้อมในการเชื่อมข้อมูล ขณะที่เรื่องของตัวพรบ.ฉบับใหม่นั้นขณะนี้อยู่ระห่างรอเสนอให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สตช.) พิจารณาการแปรญัตติเพื่อออกเป็นข้อบังคับต่อไป

ส่วนกรณีรถป้ายแดงนั้นขณะนี้ยังสามารถใช้ได้อยู่ไปจนถึงปีที่จะบังคับใช้กฎหมายแต่ต้องมีใบอนุญาตถูกต้อง และเมื่อกฎหมายบังคับใช้แล้วจะไม่มีรถป้ายแดงวิ่งบนท้องถนนอีกต่อไปเพราะกฎหมายใหม่จะยกเลิกเรื่องการนำมาใช้ขับขี่จะระบุให้ใช้ป้ายแดงเพื่อขายหรือซ่อมแซมเท่านั้น โดยผู้ที่ซื้อรถใหม่ต้องนำมาจดทะเบียนกับกรมขนส่งทางบก(ขบ.)ทันทีเพื่อรับป้ายทะเบียนไปใช้

ทั้งนี้ ประเด็นสำคัญของการควบรวมกฎหมายที่จะบังคับใช้ในปี 2563 นั้นประกอบด้วย การเพิ่มโทษปรับใบขับขี่ การขยายความผิดไปยังผู้ประกอบการผลิตรถยนต์ การควบรวมทุกประเภทบังคับใช้กฎหมายเดียวกัน รวมถึงการรวมระบบใบขับขี่เป็นมาตรฐานเดียวกันและการออกใบรับรองพิเศษแยกประเภทเพื่อใช้คู่กับใบขับขี่คล้ายโมเดลในประเทศยุโรป เช่น รถบรรทุกน้ำมันหรือรถสาธารณะเป็นต้น

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง