
สถานการณ์หมอกควันภาคเหนือเริ่มดีขึ้นต่อเนื่อง แต่ยังสูงในหลายพื้นที่โดยเฉพาะบริเวณตำบลเวียงพางคำ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ยังมีค่าฝุ่น PM2.5 และ PM10 สูงสุด พร้อมคุมเข้มห้ามเผาเด็ดขาดอย่างจริงจังขึ้น
วันที่ 19 มี.ค. 2562 สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ตรวจวัดสถานการณ์ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 พื้นที่ภาคเหนือ 9 จังหวัดวันนี้ 19 มีนาคม 2562 ภาพรวมคุณภาพอากาศอยู่ในระดับคุณภาพปานกลางถึงมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยสารมลพิษทางอากาศที่ตรวจพบเกินมาตรฐาน คือ ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) ตรวจพบค่าเฉลี่ยระหว่าง 43 – 143 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
ภาพรวมค่าฝุ่นหลายพื้นที่ลดลงต่อเนื่อง จากเมื่อวานนี้ 18 มีนาคม 2562 โดยพบเกินมาตรฐานในระดับสีแดงมีผล กระทบต่อสุขภาพอยู่ 3 พื้นที่ คือ มีค่าฝุ่นสูงสุดบริเวณ ตำบลเวียงพางคำ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย อยู่ที่ 143 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ตำบลเวียง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย และ ตำบลจองคำ อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ขณะที่ค่าฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) ตรวจพบค่าระหว่าง 62 – 188 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เกินมาตรฐานบริเวณ ตำบลช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่, และตำบลจองคำ อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยสูงสุดบริเวณตำบลเวียงพางคำ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย อยู่ที่ 188 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สำหรับสาเหตุยังมาจากประชาชนลักลอบเผาเพื่อล่าสัตว์ หาของป่า และการเตรียมพื้นที่เกษตร โดย คพ. ขอให้ทุกจังหวัดเฝ้าระวังและดับไฟอย่างเข้มงวด เนื่องจากมีจุดความร้อนกระจายอยู่หลายจังหวัด ควบคู่กับ ขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่งดการเผาในที่โล่งเพื่อป้องกันการเพิ่มสูงขึ้นของฝุ่นละอองอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกรณีประชาชนอยู่ในพื้นที่ที่ปริมาณฝุ่นละอองมีผลกระทบต่อสุขภาพ ขอให้หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายและการทำกิจกรรมกลางแจ้ง สวมใส่หน้ากากป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็ก โดยเฉพาะประชาชนทั่วไปและกลุ่มเสี่ยงควรเฝ้าระวังสังเกตอาการผิดปกติ เช่น ไอบ่อย หายใจลำบาก หายใจถี่ หายใจไม่ออก ใจมีเสียงวี้ด ใจสั่น คลื่นไส้ วิงเวียนศีรษะ แน่นหน้าอก ให้รีบพบแพทย์ ผู้มีโรคประจำตัวควรเตรียมยาและอุปกรณ์ที่จำเป็นอย่างน้อย 5 วัน









