
ทอ.ชี้แจงเหตุเครื่องบินพีชเมคเกอร์ลงจอดฉุกเฉินส่งผลนักบินและช่างเครื่องบาดเจ็บ 2 นาย ระบุใช้มา 47 ปี มีการซ่อมบำรุงตามวงรอบและตามมาตรฐาน ด้านแม่ทัพภาค 4 เดินทางไปเยี่ยมพร้อมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บ
วันที่ 6 มี.ค. 2562 พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาค 4 เดินทางไปเยี่ยมให้กำลังใจพร้อมมอบกระเช้าเยี่ยมป่วยผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์เครื่องบินโจมตีและธุรการแบบที่ 2 พีชเมคเกอร์ หรือ (AU-23A) peacemaker ของกองทัพอากาศ เกิดเครื่องยนต์ขัดข้องนักบินได้ทำการแก้ไขและขอลงฉุกเฉินนอกสนามบิน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ประกอบไปด้วยนักบิน 2 นาย คือ ร.อ.ศรพล พานิชสมัย และ ร.ท.จัทรภัทรณ์ วรรณภาสชัยยง พร้อมเจ้าหน้าที่ประจำเครื่องอีก 1 นาย คือ จ.อ.กิตติ ธรรมเจริญราช ณ ตึกอุบัติเหตุฉุกเฉิน โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยเครื่องบินดังกล่าว อยู่ระหว่างปฎิบัติภารกิจการบิน เดินทางเพื่อสับเปลี่ยนกำลังเจ้าหน้าที่จากกองกำลังทางอากาศเฉพาะกิจที่ 9 จังหวัดปัตตานี ไปยังกองบิน 56 จังหวัดสงขลา

สำหรับเอยู23 พีชเมคเกอร์เป็นเครื่องบินที่เดิมกองทัพอากาศสหรัฐฯ จัดหาประจำการในกองทัพเพื่อใช้ในภารกิจปราบปรามผู้ก่อการร้าย ปฏิบัติการทางจิตวิทยา โจมตีภาคพื้นขนาดเบา ขนส่งลำเลียงจู่โจมทางยุทธวิธี มีขีดความสามารถในการขึ้น-ลง ระยะสั้น โดยเฉพาะการขนส่งขึ้นลงในสนามบินฉุกเฉินเร่งด่วน ซึ่งกองทัพอากาศไทยได้รับมอบ เอยู23 จากกองทัพสหรัฐฯ เพื่อใช้ในภารกิจทางทหารและปราบปรามผู้ก่อการร้าย และเป็นกองทัพอากาศเดียวในโลกที่มีเครื่องบินแบบ และชนิดนี้ประจำการอยู่ ประจำการ 14 พ.ย. 2515 ถึงปัจจุบัน

โฆษกกองทัพอากาศแจงเอยู23 พีชเมคเกอร์ ใช้นาน 47 ปี
ขณะที่พลอากาศโท พงษ์ศักดิ์ เสมาชัย เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารอากาศ ในฐานะ โฆษกกองทัพอากาศ กล่าวว่า จากการติดตามข่าวพบว่ามีการแสดงความคิดเห็น ต่อกรณีนี้ อย่างกว้างขวาง โดยวิพากษ์วิจารณ์ว่าสาเหตุที่เครื่องยนต์ขัดข้องเกิดจากเครื่องบินเก่า เนื่องจากเครื่องบินเอยู23 พีชเมคเกอร์ ได้บรรจุเข้าประจำการในกองทัพอากาศตั้งแต่ปี พ.ศ.2515 และยังคงปฏิบัติภารกิจต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน
จึงขอเรียนว่าถึงแม้เครื่องบิน เอยู23 พีชเมคเกอร์ จะมีอายุการใช้งานที่ค่อนข้างนาน แต่กองทัพอากาศยังคงมีความจำเป็นที่จะต้องใช้ในการปฏิบัติภารกิจตามขีดความสามารถของเครื่อง ซึ่งปัจจุบันเครื่องบินเอยู23 พีชเมคเกอร์ ได้ประจำการที่ฝูงบิน 501 กองบิน 5 จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติภารกิจหลายประการ เช่น การบินลาดตระเวนทางอากาศ การบินลาดตระเวนถ่ายภาพ การลำเลียงทางอากาศ การปฏิบัติการฝนหลวง และการสนับสนุนการปฏิบัติกิจเฉพาะพิเศษต่างๆ โดยได้มีการซ่อมบำรุงตามวงรอบอย่างสม่ำเสมอ และตรวจสอบให้ได้มาตรฐานที่กำหนดไว้
ทั้งนี้ ยังไม่มีแผนการจัดหาเครื่องบินทดแทนเครื่องบินประเภทนี้ในระยะเวลาอันใกล้ เนื่องจากกองทัพอากาศมีข้อจำกัดด้านงบประมาณ อย่างไรก็ตาม นักบินรวมถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกส่วนของกองทัพอากาศ มีความมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ ภายใต้ข้อจำกัดด้านทรัพยากร จึงขอให้พี่น้องประชาชนมั่นใจว่า กองทัพอากาศยังคงดำรงขีดความสามารถในการป้องกันประเทศ การรักษาเอกราชอธิปไตยเหนือน่านฟ้าไทย และการรักษาผลประโยชน์ของชาติได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
https://www.facebook.com/WassanaJournalist/posts/2213052282086551









