กลุ่มวาฬไทยห่วงประชากรวาฬลดจำนวนลง หลังพบวาฬตาย 3 ตัวในรอบ 1 เดือน ชี้การหาสาเหตุการตายเป็นสิ่งสำคัญนำไปสู่การป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำ
วันที่ 21 มิ.ย.62 เพจเฟซบุ๊ก ThaiWhales โพสต์ภาพและข้อความขณะทีมกำลังลงพื้นที่ซากวาฬที่สมุทรปราการ หลังทางทีมสัตวแพทย์ก็แจ้งให้ทราบว่า มีคนแจ้งพบซากวาฬ (ยังไม่ทราบสายพันธุ์) ที่อ่าวไทยตอนกลางอีกตัว ตอนแรกว่าแถวๆ ละแม แต่ตอนนี้อาจไปขึ้นที่ท่าชนะ ในหนึ่งเดือนวาฬตายแล้ว 3 ตัว คือ เจ้าปิ่น,วาฬที่สมุทรปราการ และอีกตัวที่ท่าชนะ การหาสาเหตุการตายเป็นสิ่งสำคัญ เผื่อว่าเราจะป้องกันหรืออย่างน้อยก็ทำให้เราพอรับรู้ได้ว่า มันเกิดอะไรขึ้น
สำหรับซากวาฬที่พบในอ่าวท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้รับแจ้งจากนายวิสูตร อินทรกำเหนิด นายอำเภอท่าชนะ ว่า ชาวประมงพบซากวาฬความยาวกว่า 12 เมตร ไม่ทราบเพศและสายพันธุ์ลอยอยู่ในบริเวณอ่าวท่าชนะ อำเภอท่าชนะ จึงได้สั่งการให้สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ที่ 5 เข้าตรวจสอบซากวาฬโดยด่วน ซากวาฬดังกล่าว
และวาฬที่พบก่อนหน้านี้ที่แหลมฟ้าผ่า อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ เป็นปลาวาฬบรูด้าเพศผู้ อายุประมาณ 4-5 ปี ขนาดลำตัวยาวกว่า 10 เมตร น้ำหนักประมาณ 20 ตัน ตายแล้วไม่ต่ำกว่า 20 วัน ชาวบ้านไปตื้นติดชายฝั่งบริเวณป่าโกงกางห่างจากวัดขุนสมุทรจีนไปทางทิศตะวันออกประมาณ 4 กิโลเมตร
ทั้งนี้ จากการสำรวจบริเวณปากอ่าวไทยใกล้จังหวัดสมุทรปราการและพื้นที่ติดต่อมีฝูงวาฬบรูด้า จำนวน 50 ตัว คาดว่า ตัวที่เกยตื้นนั้นน่าจะเป็นตัวที่กำลังโตเจริญพันธุ์ และเป็นตัวที่ 3 ในรอบ 12 ปี ที่เกยชายฝั่งตาย ส่วนสาเหตุการตายสันนิษฐานว่า น่าจะหลงฝูงมาเกยตื้นหรือกินอาหารที่เป็นพิษเข้าไปจนเป็นเหตุให้เสียชีวิตได้ คงต้องรอผลการผ่าชันสูตรของเจ้าหน้าที่ต่อไป
เว็บไซต์วาฬไทยให้ข้อมูลว่า วาฬชนิดที่เคยมีรายงานการพบหรือเห็นซากในประเทศไทยนับแต่อดีตถึงปัจจุบัน มีทั้งวาฬแบบกรองกิน (วาฬบาลีน – Baleen Whale และวาฬชนิดมีฟัน – Toothed Whale) พบได้ทั้งในอ่าวไทยและอันดามัน มีทั้งขนาดเล็ก (บางชนิดเล็กกว่าโลมา) ไปจนถึงใหญ่มากอย่างวาฬสีน้ำเงินเล็ก (Pygmy Blue Whale) นับเฉพาะวาฬที่ชื่อทั่วไป หรือ Common Name ในภาษาอังกฤษ เรียกว่า Whale มีทั้งหมด 17 ชนิด
สำหรับวาฬบรูด้าได้รับการบรรจุเป็นสัตว์สงวนของไทยลำดับที่ 16 ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมามีวาฬบรูด้าตายแล้ว 3 ตัว โดยปี 2560 มี 2 ตัวที่จ.ประจวบคีรีขันธ์
