
อธิบดีกรมป่าไม้ เข้มตรวจสอบประวัติและขึ้นบัญชีดำชาวบ้านที่ลักลอบเผาป่าและชุมชนที่ป่าถูกบุกรุกเพิ่มจะถูกพิจารณาตัดสิทธิ การใช้ประโยชน์ที่ดินในเขตป่าของ คทช.ทันที
วันที่ 5 เม.ย. 2562 นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า กำชับให้ชุดปฏิบัติการคณะอนุกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ อำเภอและหน่วยป้องกันพัฒนาป่าไม้ประสานนายอำเภอและผู้นำท้องถิ่น เร่งสร้างความเข้าใจกับประชาชนเกี่ยวกับการเผาเพื่อหาของป่าและล่าสัตว์ เพื่อปรับเปลี่ยนความเชื่อที่ผิดและลดพฤติกรรมการเผาลงได้ แต่ต้องทำควบคู่กับการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดและเข้มงวดขึ้น ด้วยการจับกุมดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด โดยให้พิจารณาหลักเกณฑ์ผู้ที่จะได้รับสิทธิการเข้าใช้ประโยชน์ที่ดินทำกินเขตป่าถูกต้องตามกฎหมาย หากพบเป็นบุคคลที่มีพฤติกรรมเคยเข้าไปเผาป่า ลักลอบตัดไม้ บุกรุกป่าเพิ่ม ลักลอบล่าสัตว์ หรือมีจุดความร้อน (Hotspot) เกิดขึ้นในที่ดินของตนเองจะถูกตัดสิทธิในที่ดินทำกินในเขตป่าตามหลักเกณฑ์ของคณะอนุกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ทันที โดยเฉพาะชาวบ้านที่ลักลอบเผาป่าจะขึ้นบัญชีดำ และการแปลภาพถ่ายดาวเทียมหากพบพื้นที่ชุมชนใดเกิดการถูกบุกรุกป่าเพิ่มเติมจะถูกพิจารณาตัดสิทธิและขาดคุณสมบัติตามเกณฑ์ คทช. ทันที จึงให้คุมเข้มคุณสมบัติของชาวบ้านที่มาแจ้งขอใช้สิทธิในพื้นที่เขตป่าสงวนแห่งชาติที่เหลือที่จะแล้วเสร็จภายในปี 2563-2565 ขณะที่อยู่ระหว่างสำรวจพื้นที่และกำหนดแปลงที่จะให้เข้าใช้ประโยชน์

อรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้
อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวย้ำว่า จากการสำรวจโดยภาพถ่ายดาวเทียมในพื้นที่ 9 จังหวัดภาคเหนือที่พบจุดความร้อน (Hotspot) ในเขตป่าสะสมระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2561 ถึง 3 เมษายน 2562 สูงสุด 5 พื้นที่ คือ ตำบลแม่คง อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน 164 จุด ตำบลบ้านนา อำเภอสามเงา จังหวัดตาก 149 จุด ตำบลก้อ อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน 89 จุด ตำบลยาบหัวนา อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน 68 จุด และตำบลสบป่อง อ.ปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน 63 จุด โดยมีการจับตาและเฝ้าระวังเป็นพิเศษ










