
ในหลวง ร.10 โปรดเกล้าฯ จัดตั้งโรงครัวพระราชทานเลี้ยงเจ้าหน้าที่ปฏิบัติภาระกิจค้นหา ด.ช.ชาวเมียนมา วัย 2 ขวบหายตัวในไร่อ้อย จ.สุพรรณบุรี
จากกรณีเด็กชายซูลุยผิว หนูน้อยชาวเมียนมา วัย 2 ขวบ 1 เดือน หายไปอย่างไร้ร่องรอย บริเวณไร่อ้อย ห่างจากริมถนนมาลัยแมน 3 กิโลเมตร ทางเข้าหมู่บ้าน ที่อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี ตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหาร รวมถึงกู้ภัยต่างๆ ระดมกำลังค้นหากันอย่างต่อเนื่องนั้น
วันที่ 23 ธ.ค.2561 จากกรณี ด.ช.ซูลุยผิว วัย 2 ขวบ 1 เดือน ชาวเมียนมาหายไปอย่างไร้ร่องรอย บริเวณไร่อ้อย พื้นที่หมู่ 9 ต.สระพังลาน อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ตั้งแต่วันที่ 17 ธ.ค. ที่ผ่านมา โดยมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหาร รวมถึงกู้ภัยต่างๆ และชาวบ้านในพื้นที่และคนงานตัดอ้อย ออกปูพรมค้นหาโดยยังมีความหวังว่าเด็กยังมีชีวิตอยู่ เจ้าหน้าที่ประเมินประเด็นเรื่องการจมน้ำว่าน่าจะเป็นไปได้น้อยที่สุด เนื่องจากนักประดาน้ำได้ลงตรวจสอบแล้วแต่ไม่พบ และหากเด็กจมน้ำจริงก็ต้องมีร่องรอยหรือพบอะไรบ้างแล้ว ส่วนกรณีมีพยานเห็นรถกระบะขับออกจากไร่นั้น ทางชุดสืบสวนอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ซึ่งล่าสุดน.ส.ศิริสรา เจียมวงค์แพทย์ ผู้ควบคุมสุนัขโครงการสุนัขกู้ภัยแห่งชาติ (มูลนิธิ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ) พร้อมด้วย 2 สามีภรรยาอาสาสมัครชาวนิวซีแลนด์ในโครงการเดียววันได้นำสุนัข 3 ตัว มาช่วยค้นหาด้วย

ด้านนายนิมิต วันไชยธนวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี เผยว่า จากการประเมินสถานการณ์ล่าสุดยังมีความเชื่อว่าเด็กน่าจะหลงอยู่ในไร่อ้อย จึงได้สั่งการให้ทุกหน่วยตรึงกำลังค้นหาต่อไป และจะมีการประเมินสถานการณ์วันต่อวัน แต่ในส่วนของประเด็นอื่นก็ยังไม่ได้ทิ้ง ยังคงให้ชุดสืบสวนของ สภ.สระยายโสม และชุดสืบสวนจังหวัด ประสานกันหาข่าวในพื้นที่ เพื่อหาพยานแวดล้อมที่อาจจะพบเห็นเหตุการณ์ รวมถึงรีเช็กรถที่ผ่านเข้าออกในวันเกิดเหตุ ขณะนี้ ทีมค้นหาได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากในหลวง รัชกาลที่ 10 ในการจัดตั้งครัวพระราชทาน ทำอาหารเพื่อมาประกอบเลี้ยงเจ้าหน้าที่ และชาวบ้านที่มาร่วมช่วยค้นหาทั้ง 3 มื้อ รวมถึงน้ำดื่ม ผ้าเย็น เครื่องดื่มบำรุงร่างกายมาสนับสนุนอย่างเต็มที่ จนกว่าภารกิจการค้นหาจะสิ้นสุด สร้างความปลื้มปีติ และซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอย่างที่สุด

ขณะที่ศูนย์ข้อมูลคนหายมูลนิธิกระจกเงา รายงานข้อมูล ณ วันที่ 22 ธ.ค. 2561 เวลา 23.45น. ว่าเป็นเวลากว่า 6 วันเต็มที่น้องซูลุยผิว วัย 2 ขวบ หายตัวไป กระบวนการติดตามหาในส่วนประเด็นการพลัดหลงในพื้นที่ ได้ขยายพื้นที่การค้นหาในไร่อ้อยไปยังแปลงถัดไปต่อจากการค้นหาที่ผ่านมา รัศมีประมาณ 1 กิโลเมตร ซึ่งเป็นพื้นที่รอยต่อกับจุดที่มีคนพบเห็นเด็กวิ่งเล่นเป็นครั้งสุดท้าย
สุนัขดมกลิ่นสะกดรอย จากทีมสุนัขกู้ภัยแห่งชาติ ได้ดมกลิ่นเสื้อผ้าของเด็ก และได้เดินไปยังจุดที่เป็นสระน้ำ ห่างจากจุดที่เด็กน่าจะวิ่งเล่นเป็นครั้งสุดท้ายประมาณ 1 กม. โดยการปฏิบัติหน้าที่ของสุนัขตัวแรกได้เดินสะกดรอยดมกลิ่นมายังจุดดังกล่าวนี้ถึง 2 รอบ และสุนัขอีกตัวหนึ่ง ได้แสดงปฏิกิริยาว่ามีสิ่งผิดปกติอยู่บริเวณสระน้ำเดียวกัน
ทีมนักประดาน้ำ จากมูลนิธิร่วมกตัญญู มูลนิธิจักรนารายณ์ มูลนิธิเสมอกัน สุพรรณบุรี ได้ร่วมกันลงค้นหาในสระน้ำที่สุนัขดมกลิ่นมีปฏิกิริยา แต่เนื่องจากลักษณะของสระน้ำ มีวัชพืชปกคลุมแน่นสระ การค้นหาทำซ้ำถึง 2 ครั้งบริเวณรอบริมตลิ่ง และในจุดที่นักประดาน้ำสามารถค้นหาได้ เนื่องจากบางจุดรากของวัชพืชหนาแน่นและอาจพันท่อส่งอากาศของนักประดาน้ำได้ โดยยังไม่พบเบาะแสใดๆเพิ่มเติม

ทีมนักประดาน้ำ ได้ลงค้นหาในสระน้ำตามแนวรัศมีที่เด็กหายอาจพอเดินพลัดหลงไปได้อีก 2 สระ โดยยังไม่พบเบาะแสใดๆ เพิ่มเติม ทีมสุนัขกู้ภัยแห่งชาติได้แจ้งถึงลักษณะปฏิกิริยาของสุนัขดมกลิ่นที่มีต่อสระน้ำแรก ซึ่งมีแนวโน้วว่ามีสิ่งผิดปกติอยู่ในบริเวณดังกล่าว จึงมีความเห็นในการค้นหาซ้ำในสระน้ำที่สุนัขมีปฏิกิริยา
ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ ได้ประสานสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขอสนับสนุนรถแมคโครและเรือท้องแบน เพื่อผลักดันและตักวัชพืชออกจากสระน้ำดังกล่าวทั้งหมด เพื่อให้นักประดาน้ำเข้าเคลียร์พื้นที่สระน้ำอีกครั้ง การค้นหารอบที่สามของนักประดาน้ำหลังการผลักดันและตัดวัชพืชออกจนหมดสระไม่พบพยานหลักฐานใดๆ เกี่ยวกับเด็กหาย ยุติภารกิจเวลา 23.00 น.
สำหรับการสอบสวนสืบสวนการหายตัวไปในสาเหตุอื่น ยังไม่ปรากฏพยานหลักฐานสำคัญในพื้นที่ที่อาจบ่งชี้ว่ามีการเกิดเหตุดังกล่าวได้ การสอบสวนสืบสวนโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง และวันนี้ (23 ธ.ค. 2561) การค้นหาในพื้นที่ยังคงดำเนินการอยู่ ควบคู่การสอบสวนสืบสวนในสาเหตุอื่นของการหายตัวไป










