ร่างกายมีกลไกในการป้องกัน PM 2.5 ได้อย่างไร

ร่างกายมีกลไกในการป้องกัน PM 2.5 ได้อย่างไร

ในประเทศ

ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยา ย้ำฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 อันตรายต่อระบบทางเดินหายใจ ชี้เมื่อร่างกายรับปริมาณมากเกินไปจะทำให้ติดเชื้อไวรัส เชื้อวัณโรค เชื้อปอดบวม 

วันที่ 15 ม.ค.2562 ช่วงนี้คนกรุงตกอยู่ในภาวะวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหามลพิษทางอากาศ ฝุ่นละอองขนาด 2.5 micron ซึ่งมีขนาดเล็กมาก พากันหาซื้อหน้ากาก N95 ป้องกันตัวเอง ล่าสุด ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬากรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก Yong Poovorawan อธิบายถึง ร่างกายมีกลไกในการป้องกันได้อย่างไร และ PM 2.5 คืออะไร ข้อความว่า

PM 2.5 ย่อมาจาก Partculate mattter หรือแปลว่า ฝุ่นละอองนั่นเอง 2.5 ก็มาจากคำว่าขนาด คือขนาด 2.5 ไมครอนหรือเล็กกว่า หมายถึง ฝุ่นละอองขนาดจิ๋ว โดยทั่วไปฝุ่นละอองที่เกิดจากการก่อสร้าง ฝุ่นถนน จะมีขนาดใหญ่กว่า เราเรียกว่า PM 10 เมื่อก่อนใครเคยนั่งรถสองแถววิ่งบนถนนลูกรังกลับถึงบ้านหัวแดงเลยก็ไม่รู้จะไปโทษใคร

PM 2.5 ฝุ่นขนาดจิ๋วที่มีขนาด 2.5 ไมครอนหรือเล็กกว่าส่วนใหญ่จะเกิดจากการเผาไหม้ของรถยนต์ การเผาวัสดุสิ่งปฏิกูล การเผาไร่นา ควันไฟ บุหรี่มือสองด้วย รวมทั้งละอองเกสรดอกไม้
เมื่อมีขนาดเล็ก ก็มีโอกาสเข้าสู่ทางเดินหายใจลงไปได้ลึกกว่า มาตรฐานจึงตั้งค่ากำหนดไว้ สำหรับ PM 2.5 ว่าไม่ควรเกิน 25 ไมโครกรัม ต่อลูกบาศก์เมตรใน 24 ชั่วโมง ถ้ามากกว่านี้ก็จะปรับระดับความรุนแรง เป็นสีต่างๆ จนถึงสีแดง

แน่นอนถ้ามีปริมาณมากเกินกว่าร่างกายกำจัดได้ก็จะเป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจ ทำให้เกิดการอักเสบของทางเดินหายใจ โดยเฉพาะผู้สูงอายุ เด็กเล็ก หรือผู้ที่เป็นโรคปอดโรคหัวใจ โดยปกติระบบทางเดินหายใจของเราจะมีกลไกในการป้องกันฝุ่นละออง เชื้อโรค ตั้งแต่เข้าจมูก จะมีขนในรูจมูกช่วยกรองฝุ่นขนาดใหญ่ ในโพรงจมูกจะมี turbinate ทำให้พัด ลมที่หายใจเข้าหมุนวน เพื่อให้เยื่อบุที่จมูกจะได้จับกับฝุ่นละอองเชื้อโรค ด้วยเยื่อเมื่อก และเมื่อลมผ่านก็ไปในหลอดลมจนถึงหลอดลมฝอย บนผนังหลอดลมจะมีเยื่อเมือก และมีขนอ่อน ที่เรียกว่า cilia พัดโบก และมีเมือกคัดหลั่งให้พัดเอาฝุ่นฝอยละอองหรือเชื้อโรค ออกมา ในวันหนึ่งสารคัดหลั่งบนเยื่อผิวทั้งหมดของทางเดินหายใจจะออกมาประมาณ 2 ลิตร เพื่อทำความชุ่มชื้นให้ระบบทางเดินหายใจ และพัดขึ้นบน ร่างกายจะกลืนลงไปและถ้ามากก็จะเป็นเสมหะ

ฝุ่นละอองขนาดเล็ก ขนาดจิ๋ว หรือเชื้อโรคถ้าหลุดลงไปถึงถุงลม ร่างกายจะมี alveola macrophage คอยเก็บดินหรือกำจัดให้หมดไป นอกจากมีเป็นจำนวนมาก ก็จะเกิดปฏิกิริยาการอักเสบ โดยเฉพาะเชื้อโรค เมื่อเข้าไปแล้วถ้าสามารถแบ่งตัวเพิ่มจำนวนได้ เกินกว่าความสามารถในการกำจัดก็จะทำให้เกิดโรคได้ ในเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคทางเดินหายใจเรื้อรัง โรคปอด โรคหัวใจ ก็จะเป็นกลุ่มเสี่ยง ต่อสิ่งแปลกปลอมที่เข้าไปสู่ปอดได้ง่ายกว่าผู้ที่มีร่างกายแข็งแรง ด้วยกระบวนการป้องกันของร่างกายที่อ่อนแอกว่า

ฝุ่นละอองที่จะลงถึงหลอดลมได้ส่วนใหญ่จะมีขนาด 1 ไมครอนหรือเล็กกว่า เช่น ไวรัส ส่วนที่กล่าวกันว่าจะดูดซึมเข้าสู่กระแสโลหิตได้นั้น จะต้องเป็น very low micromolecule คือมีขนาดเล็กกว่า 0.1 ไมครอน หรือเป็นพวกแก๊ส ที่เราหายใจเข้าไป ฝุ่นละอองที่กล่าวถึงกัน ต่างกับเชื้อโรค เชื้อโรคมีพิษมีภัยมากกว่า เพราะเข้าไปแล้ว ถ้าสามารถเพิ่มจำนวนได้ ก็จะทำให้เกิดโรค รวมทั้งเกิดการอักเสบและเข้าสู่กระแสโลหิตได้

ปกติแล้วร่างกายก็มีกลไกในการปกป้องให้อยู่แล้ว นอกจากได้รับปริมาณมากเกินไป เกินกว่าความสามารถของร่างกายที่จะทำรายได้ หรือเชื้อโรคที่เพิ่มจำนวนจากการติดเชื้อก็จะทำให้เกิดอันตราย เชื้อไวรัส เชื้อวัณโรค เชื้อปอดบวม น่ากลัวกว่าแน่นอน

https://www.facebook.com/yong.poovorawan/posts/2559808057395129

 

 

 

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง
ร่างกายมีกลไกในการป้องกัน PM 2.5 ได้อย่างไร