
คณะกรรมการอาหารและยา เปิดสายด่วน อย. 1556 กด 3 สอบคำถามทุกข้อสงสัยกัญชา เริ่มให้บริการ 27 ก.พ. นี้
วันที่ 26 ก.พ.2562 นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า หลังจากคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษ เห็นชอบร่างประกาศนิรโทษและครอบครองกัญชาทั้ง 3 ฉบับ โดยได้เสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขลงนาม และอยู่ในระหว่างรอลงประกาศราชกิจจานุเบกษา ซึ่งจะครอบคลุมบุคคล 3 กลุ่ม คือ
1. ผู้มีคุณสมบัติตามกฎหมายใหม่
2. ผู้ป่วยที่มีใบรับรองจากแพทย์ว่ามีอาการเจ็บป่วยจะอนุญาตให้ใช้ในปริมาณที่เพียงพอต่อการรักษาโรคเท่านั้น
3. บุคคลอื่นๆ
ทั้ง 3 กลุ่มนี้จะต้องมาแจ้งการครอบครองภายใน 90 วัน หลังจากที่ พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2562 มีผลใช้บังคับ คือ จะต้องมาแจ้งการครอบครองภายในวันที่ 19 พ.ค. 2562 ดังนั้น เพื่อเป็นการตรียมความพร้อมและสร้างความเข้าใจในระยะเปลี่ยนผ่านการแจ้งการครอบครองกัญชา อย. จึงได้เปิดสายด่วน อย. 1556 กด 3 สอบถามข้อสงสัยเกี่ยวกับกัญชาได้ตลอดเวลาในวันและเวลาราชการ (8.30-16.30 น.) โดยจะเริ่มในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2562 เป็นต้นไป

นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา
สำหรับ ผู้มีคุณสมบัติตามกฎหมายใหม่ 7 กลุ่ม คือ 1)หน่วยงานของรัฐ 2) ผู้ประกอบวิชาชีพ 3) สถาบัน อุดมศึกษาเอกชน (ทางแพทย์/เภสัชศาสตร์) 4) ผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรรมที่รวมตัวเป็นวิสาหกิจชุมชน 5) ผู้ประกอบการขนส่งสาธารณะระหว่างประเทศ 6) ผู้ป่วยเดินทางระหว่างประเทศ และ 7) ผู้ขออนุญาตอื่น
การขออนุญาตต้องมีแบบแจ้งการครอบครอง (ยส.5) โครงการวิจัย (ถ้ามี) และเอกสารอื่น ๆ ตามประเภทของผู้ยื่นคำขอ ดังนี้
กรณีเป็นหน่วยงานรัฐ ต้องมีหลักฐานแสดงความเป็นหน่วยงานของรัฐ ผู้ประกอบวิชาชีพ ต้องแสดงใบประกอบวิชาชีพ สถาบันอุดมศึกษา หลักฐานแสดงการเป็นสถาบันอุดมศึกษาที่มีหน้าที่เกี่ยวกับการวิจัยและการเรียนการสอนที่เกี่ยวกับการแพทย์หรือเภสัชศาสตร์ ผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ต้องมีหนังสือจดทะเบียนกลุ่มเกษตรกรตามกฎหมาย เอกสารแสดงความร่วมมือและดำเนินการภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานรัฐหรือสถาบันการศึกษา ผู้ประกอบการขนส่งสาธารณะระหว่างประเทศ ต้องมีเอกสารจดทะเบียนการดำเนินการขนส่งระหว่างประเทศ ผู้ป่วยเดินทางระหว่างประเทศ ต้องมีหนังสือเดินทาง เอกสารเดินทางเข้าและออกจากประเทศไทย และใบรับรองแพทย์ หรือหนังสือรับรองแพทย์

สำหรับผู้ป่วยที่มีความจำเป็นต้องใช้กัญชาในการรักษาโรคตัวเอง และมีกัญชาดังกล่าวในครอบครองก่อน 19 ก.พ. 2562 ผู้ป่วยหรือผู้แทน ต้องมายื่นคำขอ “บันทึกแจ้งการมีไว้ในครอบครองฯ” กรณีมีปริมาณไม่เกิน 90 วัน หรือกรณีอื่น ๆ เช่น จำเป็นต้องใช้กัญชาเกิน 90 วัน และไม่ส่งมอบกัญชาให้แนบแบบฟอร์มพร้อมแนบหลักฐาน ใบรับรองการเจ็บป่วยและแสดงกัญชาที่ครอบครองต่อเจ้าหน้าที่ และกรณีครอบครองเกิน 90 วัน และขอส่งมอบส่วนที่เกิน 90 วัน ให้กับเจ้าหน้าที่ และ บุคคลอื่นที่ไม่มีคุณสมบัติตามกฎหมายและไม่ใช่ผู้ป่วย ให้ยื่นบันทึกแจ้งการมีไว้ในครอบครองฯ การส่งมอบและรับมอบ
ในเขตกรุงเทพฯ แจ้งได้ที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กองควบคุมวัตถุเสพติด ณ ศูนย์บริการผลิตภัณฑ์สุขภาพเบ็ดเสร็จ (One Stop Service Center ) ชั้น 2 สำหรับส่วนภูมิภาคแจ้งที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัด ที่กลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภค ตามที่ผู้ป่วยพำนัก เลขาธิการฯ กล่าวในที่สุด









