ธนาธร ชี้ประเด็นทายาทอยู่วิทยาสะท้อนสังคมอภิสิทธิ์ชน หวั่นกระบวนการ ยธ.ล่มสลายทำประชาชนไร้ที่พึ่ง ระบุ ถ้าสังคมสูญสิ้นซึ่งความศักดิ์สิทธิ์ของกระบวนการยุติธรรม ความขัดแย้งจะหาทางออกโดยสันติไม่ได้
วันที่ 25 ก.ค.2563 นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า แสดงความคิดเห็นกรณีนายวรยุทธ อยู่วิทยา อดีตผู้ต้องหาคดีขับรถชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ เสียชีวิตเมื่อ 8 ปีก่อน ซึ่งล่าสุดอัยการเพิกถอนคำสั่งฟ้องทั้ง 5 คดี ว่า ความสำคัญของกระบวนการยุติธรรม คือการเป็นหลักประกันของความเสมอภาคและการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในสังคม แต่ถ้าระบบยุติธรรมของสังคมไหนล่มสลายไปแล้ว สังคมนั้นจะไม่มีที่พึ่ง และประชาชนจะไม่มีทางออก ในวันที่ศรัทธาในองค์กรทางการเมืองทั้งหมดเสื่อมลง อย่างน้อยที่สุดหากกระบวนการยุติธรรมยังศักสิทธิ์อยู่คนจะยังมีความหวัง แต่ถ้าสังคมสูญสิ้นซึ่งความศักดิ์สิทธิ์ของกระบวนการยุติธรรม ความขัดแย้งจะหาทางออกโดยสันติไม่ได้
นายธนาธร กล่าวว่า สิ่งที่น่ากลัวเมื่อเราเอาความยุติธรรมมาถือฝักฝ่ายทางการเมืองมาทำให้กลุ่มคนกลุ่มหนึ่ง อภิสิทธิ์ชนในสังคมไทยไม่ต้องรับผิดรับชอบกับการกระทำของพวกเขา แล้วปล่อยให้คนเล็กคนน้อยติดคุกติดตาราง อันนี้น่ากลัวมาก
สื่อมวลชนถือเป็นด่านแรกที่จะเลือกว่าเรื่องไหนประชาชนควรจะรู้ เรื่องไหนเราอยากให้ประชาชนรู้ ควรจะเอาเรื่องไหนควรจะเป็นข่าว สื่อเป็นคนเลือกเรื่องราวที่เกิดขึ้นมาเป็นข่าว สื่ออยากให้ประชาชนรู้และเข้าใจเรื่องไหน ถ้าสื่อไม่มีความรับผิดชอบต่อสังคม ก็จะปล่อยข่าวที่มอมเมาประชาชน ข่าวที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน
สังคมประชาธิปไตยที่แข็งแรง สื่อมีสิทธิเสรีภาพ ต้องได้รับการปกป้อง มีสถานะพิเศษ ดังนั้นเพื่อจะตอบรับกับศรัทธาและสถานะพิเศษนี้ สื่อต้องเป็นคนทำหน้าที่กลั่นกรองเรื่องราวที่ประชาชนควรจะรู้ให้กับประชาชน เอาเรื่องราวที่ผู้มีอำนาจไม่อยากให้ประชาชนรู้มาบอกเล่าให้กับประชาชน นี่จึงเป็นประชาธิปไตยที่แข็งแรง
ขณะที่วานนี้ (24 ก.ค.2563) พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อม พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงข่าวระบุว่า ตำรวจได้รับคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องในคดีนี้จากสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 1 เห็นควรสั่งไม่ฟ้อง โดยที่คณะกรรมการตำรวจไม่คัดค้านความเห็นของอัยการ เมื่อคณะกรรมการตำรวจพิจารณากับฝ่ายกฎหมายแล้วก็เห็นพ้องตามอัยการสั่งไม่ฟ้องด้วย ทุกอย่างดำเนินตามขั้นตอนกฎหมาย อ้างอิงจากพยานหลักฐาน ไม่ใช่เรื่องสองมาตรฐานและไม่ได้ทำตามกระแสสังคม และขณะนี้อยู่ในขั้นตอนดำเนินการถอนหมายจับในไทย พร้อมประสานไปยังตำรวจสากล เพื่อถอนหมายจับกับตำรวจสากลและสามารถกลับเข้าประเทศได้หากขั้นตอนการถอนหมายจับเสร็จสิ้นแล้ว
