เงินเยียวยาโควิดเข้าวันนี้ 2,500 บาท สำหรับนายจ้าง-ลูกจ้าง ประกันสังคม ม.33 พื้นที่ 10 จังหวัดสีแดงเข้ม สำหรับผู้ที่เช็กบัญชีธนาคารแล้วยังไม่ได้เงินเยียวยา แนะนำให้รอถึงวันที่ 6 ส.ค. 2564
วันที่ 4 ส.ค. 2564 สำนักงานประกันสังคมจะโอนเงินเยียวยานายจ้าง และผู้ประกันตนมาตรา 33 ในกิจการที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐ พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด และพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน 13 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ นนทบุรี นครปฐม ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร พระนครศรีอยุธยา ชลบุรี ฉะเชิงเทรา สงขลา นราธิวาส ยะลา และปัตตานี เป็นวันแรกโดยโอนเงินผ่านพร้อมเพย์
สำหรับการจ่ายเงินเยียวยาลูกจ้างผู้ประกันตนมาตรา 33 จำนวน 2,500 บาท จะโอนผ่านบัญชีพร้อมเพย์เลขประจำตัวประชาชนเท่านั้น ส่วนนายจ้างจะได้รับการเยียวยาตามจำนวนลูกจ้างหัวละ 3,000 บาท สูงสุดลูกจ้างไม่เกิน 200 คน โอนเงินผ่านบัญชีพร้อมเพย์เลขประจำตัวประชาชน และนายจ้างนิติบุคคลจะโอนเข้าบัญชีธนาคารตามชื่อนิติบุคคลนายจ้าง
ก่อนหน้านี้นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม สั่งการให้กระทรวงแรงงานเร่งรัดขยับเวลาการจ่ายเงินเยียวยาให้กับผู้ประกันตนไม่ให้เกินวันที่ 6 ส.ค.นี้ โดยจะเริ่มทยอยจ่ายตั้งแต่วันที่ 4 ส.ค. โอนผ่านระบบการโอนผ่านพร้อมเพย์ วันละ 1 ล้านบัญชีเท่านั้น โดยผู้ประกันตนที่มีสิทธิได้รับเงินเยียวยามีจำนวน 2.87 ล้านคน จะต้องใช้เวลาถึง 3 วันจึงได้สามารถโอนได้ครบภายในกำหนดเวลาวันที่ 6 ส.ค. ตามเจตนารมณ์ของนายกรัฐมนตรี และจะทยอยโอนครั้งต่อไปให้กับนายจ้างและผู้ประกันตนมาตรา 33 ทุก ๆ วันศุกร์ จนถึงวันที่ 29 ต.ค.2564 สำหรับผู้ที่เช็กบัญชีธนาคารแล้วยังไม่ได้เงินเยียวยา แนะนำให้รอถึงวันที่ 6 ส.ค. 2564
เช็กสิทธิได้ที่ สำนักประกันสังคม

ล่าสุดวานนี้นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ เห็นชอบขยายขอบเขตมาตรการบรรเทาผลกระทบและให้ความช่วยเหลือกลุ่มแรงงาน ผู้ประกอบการ พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2564 พร้อมขยายกรอบวงเงินการให้ความช่วยเหลือ เพิ่มเป็น 60,000 ล้านบาท จากเดิม 30,000 ล้านบาท รายละเอียด ดังนี้
1. ปรับเพิ่มพื้นที่ดำเนินการจากเดิม 13 จังหวัด เป็น 29 จังหวัด ได้แก่ กทม. กาญจนบุรี ชลบุรี ฉะเชิงเทรา ตาก นครปฐม นครนายก นครราชสีมา นราธิวาส นนทบุรี ปทุมธานี ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี ปัตตานี อยุธยา เพชรบุรี เพชรบูรณ์ ยะลา ระยอง ราชบุรี ลพบุรี สงขลา สิงห์บุรี สมุทรปราการ สมุทรสงคราม สมุทรสาคร สระบุรี สุพรรณบุรีและอ่างทอง
2. กลุ่มเป้าหมายให้ความช่วยเหลือ ยังคงครอบคลุมกลุ่มแรงงานและผู้ประกอบการในกิจการที่ได้รับผลกระทบ ทั้งในส่วนที่อยู่ในระบบประกันสังคมและไม่อยู่ในระบบประกันสังคม
3. ประเภทกิจการที่ให้ความช่วยเหลือ คือ กิจการในระบบประกันสังคมจะครอบคลุม 9 สาขาและในกลุ่มผู้ประกอบการในระบบ “ถุงเงิน” ภายใต้โครงการคนละครึ่งและโครงการเราชนะในปัจจุบันที่ผ่านการคัดกรองแล้วและไม่เป็นผู้ถูกตัดสิทธิ์จากกระทรวงการคลัง จำนวน 5 กลุ่ม
4. รูปแบบการให้ความช่วยเหลือเป็นไปตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 20 ก.ค. 64
5. ระยะเวลาการให้ความช่วยเหลือ กลุ่ม 13 จังหวัดเดิม ได้แก่ ก.ค.-ส.ค. 64 (2 เดือน) กลุ่ม 16 จังหวัดที่เพิ่มเติม คือ ส.ค. 64 (1เดือน)










