ศบค. แจงมาตรการ Test & Go ลงทะเบียนแล้วรออนุมัติ 7 วัน ย้ำ นทท.ต้องมีประกันสุขภาพ เข้าไทยแล้วหากติดเชื้อต้องไม่เป็นภาระต่อระบบสาธารณสุขไทย

วันที่ 3 ก.พ. 2565 พญ.อภิสมัย ศรีสังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ตอบข้อถามสื่อมวลชนกรณีลงทะเบียน Test & Go ที่อนุญาตให้ลงทะเบียนเริ่มต้น 1 ก.พ. จะได้เข้าไทยเมื่อใดว่า ต้องรออนุมัติประมาณ 7 วัน เพื่อตรวจสอบผู้ที่จะเดินทางเข้าไทยว่าจะต้องลงทะเบียนและให้เจ้าหน้าที่กรมควบคุมโรคตรวจสอบเอกสารหลักฐานการฉีดวัคซีนครบโดส จากนั้นกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจะตรวจสอบหลักฐานการชำระค่าโรงแรมและที่พัก โดยเลือกโรงแรมที่มีโรงพยาบาลคู่ปฏิบัติการ คือ โรงแรม SHA++(SHA Extra Plus)
นอกจากนี้ยังต้องตรวจสอบเรื่องของผลตรวจ RT-PCR ของนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ ต้องมีเอกสารจริงยืนยันการตรวจที่มีมาตรฐาน ซึ่งต้องใช้เวลาไม่เกิน 7 วัน สามารถเดินทางเข้าประเทศไทยได้ หากนักท่องเที่ยวต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ที่ www.consular.mfa.go.th โดยขอให้นักท่องเที่ยวเข้าใจในข้อปฏิบัติให้ถูกต้อง หากมีการทำผิด จะมีกระบวนการทางกฎหมายมีบทลงโทษที่ชัดเจน
ทั้งนี้ จะมีการทบทวนประกันสุขภาพของนักท่องเที่ยว โดยจะมีหลักการใหม่ ให้มีการตรวจสอบการซื้อประกันสุขภาพของนักท่องเที่ยวอย่างเข้มงวดมากขึ้น ให้เป็นประกันสุขภาพที่ครอบคลุมกรณีเกิดการติดเชื้อแล้วทำให้ต้องอยู่รักษาที่เมืองไทยต่อ เพื่อทำให้นักท่องเที่ยวมั่นใจ และไม่เป็นภาระต่อระบบสาธารณสุขของไทยด้วย

- ยังไม่ปรับมาตรการเข้ม แม้ยอดติดโควิดใกล้แตะหมื่นราย
ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงกรณีที่หลายฝ่ายกังวลว่าผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นใกล้ถึงหลักหมื่นจะต้องมีการปรับมาตรการให้เข้มขึ้นหรือไม่ว่า ขณะนี้ยังไม่มีการปรับมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 กระทรวงสาธารณสุขกำลังจับตาดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ยืนยัน
ช่วงที่ผ่านมาด้วยประสิทธิภาพของวัคซีนและวินัยของประชาชน รวมถึงการเตรียมพร้อมทางการแพทย์ ทำให้จำนวนผู้ป่วยหนัก ผู้ป่วยที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจไม่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น และจำนวน Home Isolation ยังคงสามารถควบคุมได้ดีอยู่ ผู้ป่วยติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการหนักก็ยังเป็นไปตามฉากทัศน์ที่กรมควบคุมโรคได้ประเมินไว้ ยืนยันทำงานโดยตั้งอยู่บนความไม่ประมาท
รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงกรณี เพจ ศบค. เตือนหากประชาชนไม่สวมหน้ากากอนามัยจะเสียค่าปรับว่า อาจจะเป็นข้อเสนอของหน่วยงานใด หน่วยงานหนึ่งใน ศบค. ซึ่งต้องนำมาพิจารณากันต่อไป แต่ส่วนตัวเห็นว่าต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา เมื่ออยู่ในพื้นที่สาธารณะ พื้นที่ที่คนหนาแน่นก็ต้องใส่สองชั้น ข้อเสนอแนะนี้มีประโยชน์ ถือเป็นการป้องกันโรคขั้นสูงสุด แต่ต้องรับฟังความคิดเห็นกัน ย้ำว่าหากได้รับความร่วมมือจากประชาชนก็ไม่ต้องมาบังคับ










