ยาต้านไวรัส ‘โมลนูพินาเวียร์’ 2 ล้านแคปซูล จากอเมริกาถึงไทยแล้ว สธ.เผยใช้รักษาผู้ติดเชื้อโควิด-19 ได้ 50,000 คน ให้ใช้ในกลุ่ม 608 มีความเสี่ยงสูง

วันที่ 18 มี.ค. 2564 นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ ตัวแทนกระทรวงสาธารณสุข รับมอบยาโมลนูพิราเวียร์ 2 ล้านแคปซูล หรือ 50,000 คอร์สการรักษา ไว้ใช้รักษาผู้ติดเชื้อโควิด 19 50,000 คน หลังทางกระทรวงได้เจรจาจ้อตกลงการจัดซื้อเมื่อกลางปี 2564 กับบริษัทเมอร์ค แนด์ คัมปานี อินคอร์ปอเรท ประเทศสหรัฐอเมริกาไว้ โดยการส่งมอบยา จัดทำผ่านบริษัท เอ็มเอสดี (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ ทำหน้าที่ขนส่งนำยาเข้าประเทศ และกระจายยาไปตามโรงพยาบาลต่างๆ
อธิบดีกรมการแพทย์ ระบุว่า จะเริ่มจัดส่งยาให้โรงพยาบาลศูนย์หลักของแต่ละจังหวัดทั่วประเทศในวันจันทร์ที่ 21 มีนาคม 2565 จะเริ่มกระจายยา 1 ใน 3 ไปยังโรงพยาบาลทั่วประเทศ โดยโรงพยาบาลศูนย์จะเป็นผู้ดูแล และทำหน้าที่กระจายยาต่อในจังหวัดนั้น/ ครั้งนี้ยา ยังมาในจำนวนน้อย จึงจำเป็นจะต้องกระจายยาไปยังพื้นที่ที่มีการติดเชื้อมากที่สุดก่อน
สำหรับการใช้ยาโมลนูพิราเวียร์ ซึ่งเป็นยาต้านไวรัสชนิดรับประทาน ทางกระทรวงสาธารณสุข ได้กำหนด นำร่องให้ใช้กับกลุ่มผู้สูงอายุ อายุ 60 ปีขึ้นไป และกลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 โรคประจำตัว ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ป่วยสีเหลือง หรือกลุ่มที่มีปัจจัยเสี่ยงอย่างน้อย 1 ปัจจัย ที่จะส่งผลให้การดำเนินโรครุนแรงขึ้น, เน้นผู้ที่มีอาการของโรคในระดับสีเหลือง และกลุ่มผู้สูงอายุที่ติดเชื้อแล้วยังรับวัคซีนไม่ครบ / ซึ่งต้องให้ยาภายใน5 วันแรกนับตั้งแต่เข้าสู่ระบบการรักษา แต่จะต้องขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์

ซึ่งผู้ติดเชื้อจะรับประทานยา 2 ครั้งต่อวัน ครั้งละ 4 เม็ด เป็นเวลา 5 วัน หลังจากนั้นทางกระทรวงจะทำการเก็บประเมินผลการรักษา หากได้ผลดีในอนาคตอาจจะมีการสั่งซื้อยาโมนูลพิราเวียร์ ให้ใช้ยากับผู้ป่วยกลุ่มอายุ 18 ปีขึ้นไป ซึ่งผลการศึกษาของยาโมนูลพิราเวียร์ ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา สามารถช่วยลดการนอนในโรงพยาบาล และลดการเสียชีวิตได้
ส่วนความคืบหน้ายาแพกซ์โลวิด (ยาป้องกังกันการติดเชืเอโควิด-19) อธิบดีกรมการแพทย์ ระบุว่า ครม.ได้ให้อำนาจกรมการแพทย์เป็นผู้ลงนามจัดซื้อยาแพกซ์โลวิดกับบริษัทไฟเซอร์ จำนวน 50,000 คอร์ส ในสัปดาห์หน้า ซึ่งยาแพกซ์โลวิด ต้องใช้ควบคู่กับยาริโทนาเวียร์ โดยใช้ยาแพล็กโลวิด 30 เม็ดต่อคน แบ่งเป็นวันละ 6 เม็ด เช้า 3 เม็ด / เย็น 3 เม็ด เป็นเวลา 5 วัน คาดว่า ยาแพกซ์โลวิดจะมาถึงไทยในเดือนเมษายน

ดร.แมรี เสรฐภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มเอสดี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เอ็มเอสดีมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ดำเนินการนำยาต้านไวรัสชนิดรับประทานสำหรับรักษาโควิด-19 ซึ่งเป็นยานวัตกรรมที่ผ่านการวิจัยทางคลินิก และวันนี้ได้ส่งมอบแก่กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้อย่างสำเร็จลุล่วง ตลอดเวลาที่ผ่านมาเราได้ทำงานอย่างหนักและแข่งกับเวลา เพื่อทำการวิจัยและพัฒนายานวัตกรรมเพื่อต่อสู้กับโรคระบาดขอขอบคุณกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางในหลายสาขา ที่ได้ร่วมแลกเปลี่ยนความรู้ทางการแพทย์ การรักษาผู้ติดเชื้อ และข้อมูลทางคลินิกเกี่ยวกับยารักษาโควิด-19 ชนิดรับประทาน โดยมีเป้าหมายเดียวกันนั่นคือ เพื่อประโยชน์สูงสุดต่อการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ในประเทศไทย เราภูมิใจที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยให้คนไทยต่อสู้กับโควิด-19 และมีส่วนร่วมในการสนับสนุนการเตรียมความพร้อม เพื่อช่วยให้ประเทศไทยสามารถเปลี่ยนสถานการณ์จากการระบาดใหญ่ไปสู่โรคประจำถิ่นตามนโยบายของภาครัฐ ทำให้ประเทศไทยและประชาชนในประเทศสามารถกลับมาดำเนินชีวิต ไปทำงาน และมีกิจกรรมทางสังคมเพื่อฟื้นคืนเศรษฐกิจได้อีกครั้ง อย่างค่อยเป็นค่อยไปและปลอดภัย










