ผู้การฯ เลย ยันไม่มีการออกหมายจับเพนกวินผิด ม.112 แค่รับแจ้งความไว้สอบสวนและอยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

วันที่ 14 ส.ค.2563 วานนี้เมื่อเวลา 20.00 น. พล.ต.ต.วิบูลย์ วงศ์ก้อม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเลย (ผบก.ภ.จว.เลย) พร้อมด้วย พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย ผกก.สภ.เมืองเลย พ.ต.อ.ยุทธนา งามชัด ผกก.(สอบสวน) แถลงข่าวกรณีโซเซียลมีการแชร์ว่าเมื่อวันที่ 12 ส.ค.63 เวลา 10:30 น. มีชายอายุ 59 ปี ได้เข้าร้องทุกข์ที่ สภ.เมืองเลย ให้ดำเนินคดีนาย เพนกวิน หรือ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ ความผิดตามมาตรา 112 หมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ และมีการออกหมายจับ และมีการแชร์บันทึกประจำวันในโลกโซเซียลนั้น ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด
พล.ต.ต.วิบูลย์ กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นมีผู้แจ้งมาแจ้งความซึ่งเป็นช่วงที่ สภ.เมืองเลย และจนท.ภ.จวเลย ไปประกอบงานราชพิธีและจิตอาสา มีคนมาแจ้งความว่ามีคนก้าวล่วงสถาบัน ทางพนักงานสอบสวนเป็นผู้หญิงพยายามชี้แจงขั้นตอนของการแจ้งความ ขั้นตอนในการสอบสวนของคดี ซึ่งเป็นเรื่องละเอียดอ่อน แต่ผู้แจ้งได้แสดงกิริยา ในเชิงกดดัน บอกพนักงานสอบสวนว่า ต้องรับแจ้งความเขา ในเรื่องที่เขามาแจ้ง พนักงานสอบสวนจึงได้สอบถามถึงพยานหลักฐานที่เขามีอยู่ แต่ผู้แจ้งว่าเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ต้องไปแสวงหาหลักฐานเอง แต่ในวันนี้ต้องรับแจ้งเขาให้ได้ ถ้าไม่รับแจ้งก็จะเป็นเรื่องเป็นราว พนักงานสอบสวนจึงได้รับแจ้งไว้ ทำการสอบสวน ซึ่งในการสอบสวนนั้น ยังไม่มีการรับเป็นเลขคดี เนื่องจากว่าต้องทำการสอบสวนอย่างละเอียด ว่าการกระทำดังกล่าว มีการกระทำเกิดขึ้นหรือไม่ ถ้ามีการกระทำเกิดขึ้น มันเป็นขั้นตอนที่ทางพนักงานสอบสวน จะต้องไปรวบรวมพยานหลักฐาน และรายงานผู้บังคับบัญชาตามขั้นตอน ซึ่งคดีอย่างนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้วางการสอบสวนขั้นตอนในการสอบสวนไว้แล้วอย่างไร
เบื้องต้นพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเลย ได้มีการรับแจ้งไว้สอบสวน สรุปรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง หลายอย่าง มาประกอบและเสนอผู้บังคับบัญชา ปรากฏว่า ผู้แจ้งแทนที่แจ้งความแล้วจะช่วยพนักงานสอบสวน แสวงหาพยานหลักฐาน แต่กลับเอาเอกสารไปเผยแพร่ จนเกิดความสับสนในสังคม ว่าแจ้งความแล้วจะต้องมีการออกหมายจับ ทำให้ผู้ที่ถูกกล่าวอ้างถึง ตกใจและเกิดความกังวล ซึ่งทางพนักงานสอบสวนได้รับแจ้ง และทำการสอบสวนเท่านั้นเอง ว่าการกระทำนั้นเกิดขึ้นจริงหรือไม่ ถ้ามีการกระทำเกิดขึ้นจริง เป็นความผิดอาญาหรือไม่ ซึ่งมีหลายขั้นตอน ในการสอบสวน ซึ่งยังไม่มีการออกหมายจับ แต่ยังไงเมื่อมีผู้มาแจ้งพนักงานสอบสวนก็ต้องรับแจ้ง แจ้งแล้วว่ามันเป็นความผิด มีเหตุการณ์เกิดขึ้นหรือไม่ ว่าเป็นความผิดหรือไม่ ถ้าเป็นความผิดถ้าเกินอำนาจของพนักงานสอบสวน มีขั้นตอนการปฏิบัติอย่างชัดเจน ซึ่งผู้แจ้งได้โพสต์ข้อความในเฟสบุ๊ก ซึ้งทางผู้แจ้งไม่ได้เห็นกับตัวเอง แต่คิดว่าน่าจะกระทบถึงได้มาแจ้งความ ซึ้งตอนนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานและยังมีมีการแจ้งข้อกล่าวหาหรอออกหมายจับแต่อย่างไร










