นักเรียนชั้น ม.3 พร้อมญาติเข้าร้องขอความช่วยกับศูนย์ดำรงธรรมฯ และสำนักงานยุติธรรมจังหวัดขอนแก่น หลังถูกหมายเรียกจากกองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 4 ให้ไปให้ปากคำ หลังมีชื่อเป็นผู้รับพัสดุที่ข้างในยาอี กว่า 4,600 เม็ด ส่งไปยังหอพักใน จ.สมุทรปราการทั้งที่ไม่เคยไปที่นั่นเลย
วันที่ 24 ต.ค. 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม่วัย 47 ปี พาลูกสาววัย 15 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ในอ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น โดยนายมังกร บุญกุศล ผู้ใหญ่บ้าน พร้อมด้วยบรรดาญาติพี่น้อง เข้าร้องขอความช่วยเหลือกับศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดขอนแก่น และสำนักงานยุติธรรมจังหวัดขอนแก่น โดยได้นำเอกสารหมายเรียกพยาน ครั้งที่ 1 ที่ 565/2562 ซึ่งเป็นคดีเกี่ยวกับยาเสพติด ออกโดยกลุ่มงานสอบสวน และตรวจสอบทรัพย์สินฯ กองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 4 (บก.ปส.4) ซึ่งส่งมายัง สองแม่ลูก เพื่อให้เดินทางไปให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน เมื่อวันที่ 22 ต.ค. 62 ที่ผ่านมา เวลา 10.00 น. เนื่องจากมีชื่อของ ลูกสาววัย 15 ปี ปรากฏอยู่หน้ากล่องพัสดุไปรษณีย์ที่ข้างในมียาเสพติด คือ ยาอี จำนวน 4,600 เม็ด ที่ส่งมาจากประเทศเบลเยี่ยม ซึ่งถูกส่งไปยังหอพักแห่งหนึ่งใน จ.สมุทรปราการ โดยที่สองแม่ลูกยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง
นายมังกร บุญกุศล ผู้ใหญ่บ้าน ในฐานะผู้นำชุมชนจึงได้ โทรศัพท์ติดต่อไปยัง กลุ่มงานสอบสวน และตรวจสอบทรัพย์สินฯ กองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 4 (บก.ปส.4) เนื่องจากวันที่ได้รับหมายเรียกตรงกับวันที่ บก.ปส.4 ให้ไปให้ปากคำพอดี ทาง บก.ปส.4 จึง ให้ไปให้ปากคำไม่เกินสิ้นเดือนนี้ ทำให้สองแม่ลูกที่ถูกออกหมายเรียกกังวลใจว่าอาจจะกลายเป็นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด จึงพามาร้องเรียนขอความช่วยเหลือดังกล่าว
ด้านแม่ของสาววัย 15 ปี กล่าวว่า ตนเองและลูกสาวไม่เคยเดินทางไปที่ จ.สมุทรปราการแม้แต่ครั้งเดียว และครอบครัวของตนเองก็ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด จึงสงสัยว่าชื่อของลูกสาวไปปรากฏเป็นชื่อผู้รับพัสดุที่มียาเสพติดอยู่ได้อย่างไร? อีกทั้งการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายเรียกให้ตนเองและลูกสาวเดินทางไปให้ปากคำ แม้จะไปในฐานะพยาน แต่ตนเองและลูกสาวก็ไม่สบายใจ เนื่องจากกลัวว่าจะไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดียาเสพติด และการเดินทางไปให้ปากคำก็ทำให้ตนเองต้องหยุดงาน และมีค่าใช้จ่ายในการเดินทาง จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือ
ด้านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดขอนแก่น และสำนักงานยุติธรรมจังหวัดขอนแก่น นายทวีศักดิ์ สารทรัพย์ ได้โทรศัพท์ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ผู้ออกหมายเรียก ของกองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 4 เพื่อขอทราบรายละเอียดของคดี ซึ่งทราบภายหลังว่า คดีนี้เกิดขึ้นในช่วงปีที่ผ่านมา และการออกหมายเรียก 2 แม่ลูกนั้น ก็เพื่อให้ไปให้การในฐานะพยาน และเพื่อเป็นการยืนยันว่า ลูกสาววัย 15 ปี ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับพัสดุดังกล่าว ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอนกระบวนการ จึงจะต้องเดินทางไปพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก
เบื้องต้น ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดขอนแก่น และสำนักงานยุติธรรมจังหวัดขอนแก่น จึงได้ให้ผู้ถูกออกหมายเรียกเตรียมเอกสารหลักฐานเพื่อยืนยันการเป็นนักเรียน และให้พาพยานบุคคลที่น่าเชื่อถือร่วมเดินทางไปให้การกับพนักงานสอบสวนในวันและเวลาตามที่ได้นัดหมายด้วย ส่วนค่าใช้จ่ายในการเดินทาง เจ้าหน้าที่กองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 4 จะทำการเบิกจ่ายให้ตามระเบียบ
