
หลายจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีมาตรการสั่งห้ามชาวนาตากข้าวบนถนน หลังเกิดอุบัติเหตุรถเสียหลักเพราะหักหลบกองข้าว ขณะที่ชาวนาเรียกร้องให้ภาครัฐจัดหาสถานที่ตากข้าวให้ เช่นที่จังหวัดยโสธรชาวนาสามารถนำข้าวไปตากที่สนามบินเก่าซึ่งสถานที่กว้างขวาง
ชาวนาในพื้นที่ตำบลโคกสำราญ และตำบลใกล้เคียงในอำเภอเลิงนกทา จังหวัดยโสธร ต่างพากันนำรถบรรทุกข้าวเปลือกเข้าไปตากที่บริเวณลานจอดเครื่องบินภายในสนามบินกองทัพบก เลิงนกทา ซึ่งตั้งอยู่พื้นที่ตำบลโคกสำราญ เป็นสนามบินเก่าสร้างตั้งปี พ.ศ. 2506 สมัยสงครามเวียดนาม โดยทหารสหรัฐอเมริการ่วมกับพันธมิตรอังกฤษ,ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ได้ร่วมกันก่อสร้างขึ้นเพื่อเป็นสนามบินสำรองให้กับเครื่องบินที่ถูกยิงขัดข้องได้ลงจอดในสนามบินที่ใกล้ที่สุด แต่ปัจจุบันได้เลิกใช้งานไปแล้วและกองทัพบกเป็นผู้ดูแล ปัจจุบันลานจอดเครื่องบินและรันเวย์ ยังคงอยู่ในสภาพใช้งานได้ตามปกติ

ชาวนาที่อยู่ในละแวกใกล้เคียงจึงได้ขออนุญาตหน่วยทหารที่ดูแลและนำข้าวเปลือกของตนไปตากแดดไล่ความชื้นก่อนจะนำไปขาย แทนการนำข้าวเปลือกไปตากเอาไว้ตามถนนเหมือนพื้นที่อื่นเพื่อความปลอดภัยของตัวชาวนาเองและผู้ใช้รถใช้ถนน ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย โดยในแต่ละวันก็จะมีชาวนาพากันนำข้าวไปตากที่สนามบินแห่งนี้ไม่ต่ำกว่าวันละ 100 ราย สลับผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปเรื่อยๆและจะใช้ระยะเวลาตากข้าวคนละประมาณ 2-3 วัน ก็จะพากันขนย้ายข้าวเปลือกที่แห้งสนิทกลับบ้านไปและส่งขายเป็นรายได้บางส่วน แต่ในช่วงกลางคืนชาวนาก็จะไปนอนเฝ้าข้าวของตนที่ตากเอาไว้ทุกคืนเพื่อป้องกันมิจฉาชีพเข้าไปลักขโมยข้าวเปลือกที่ตากเอาไว้

แตกต่างจากที่จังหวัดสุรินทร์ ชาวนาในตำบลแตล อำเภอศีขรภูมิ ยังคงทยอยนำข้าวไปตากตามถนนทางเข้าหมู่บ้าน แม้จะรู้ว่าผิดกฎหมาย และเสี่ยงทำให้เกิดอุบัติเหตุ แต่ก็ไม่มีสถานที่ตาก พวกเขาอยากให้รัฐบาลส่งเสริมการสร้างลานตากข้าวชุมชน เพื่อแก้ปัญหาในระยะยาว ขณะที่ตำรวจในพื้นที่เร่งนำกรวยสะท้อนแสงไปวางเพื่อเตือนผู้ใช้รถใช้ถนนให้ใช้ความระมัดระวังในการขับขี่ ป้องกันอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบริเวณถนนที่มีการตากข้าว










