
ลูกสาวอาม่าฮวย ผู้ตกเป็นจำเลยถูกอาม่าฮวยพ้องยักยอกเงิน 250 ล้านบาท เผยที่ผ่านมาดูแลอาม่าเป็นอย่างดี ไม่เคยคิดเนรคุณ
วันที่ 26 พ.ย.2562 จากกรณีนางฮวย ศรีวิรัตน์ อายุ 76 ปี ร้องขอความช่วยเหลือต่อนายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ หลังไม่ได้รับความเป็นธรรมเนื่องจากตั้งแต่ปี 57 ที่ผ่านมาถูกลูกสาวแท้ๆ ยักยอกเงินกว่า 253 ล้านบาท และถ่ายโอนทรัพย์สินไปจนหมดเกลี้ยง ขณะนอนพักฟื้นรักษาตัวด้วยโรคเส้นเลือดหัวใจตีบที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง โดยมีพนักงานธนาคารรวม 4 ราย คอยให้การสนับสนุนแอบเปลี่ยนเงื่อนไขการเบิก-ถอน จากลงลายมือชื่อเป็นพิมพ์ลายนิ้วมือ พร้อมทั้งปลอมหนังสือมอบอำนาจเพื่อนำไปถอน และสั่งจ่ายเช็คแทนในบัญชีกระแสรายวัน
ล่าสุดวานนี้นางมาวดี ศรีวิรัตน์ อายุ 53 ปี ลูกสาวที่ถูกฟ้องเดินทางมาพร้อมนายกฤษฎา อินทามระ ทนายความ ชี้แจงว่าที่ผ่านมาดูแลอาม่าเป็นอย่างดีมาตลอดเวลา 50 ปี และได้แบ่งมรดกกันโดยพี่ชายได้รับมรดกเป็นโรงงานพื้นที่ 3 ไร่ รวมมูลค่าราว 100 ล้านบาท พร้อมเงินสด 30 ล้านบาท ส่วนนางมาวดีได้รับมรดกเป็นอพาร์ตเมนต์ พื้นที่ 2 ไร่ รวมมูลค่าประมาณ 20 ล้านบาท และเงินสด 30 ล้านบาทเช่นกัน

ต่อมาเมื่อปี 2559 พ่อเสียชีวิตลงจากนั้นพี่ชายก็พาอาม่าไปอยู่ด้วยที่โรงงานโดยไม่ได้แจ้งล่วงหน้า บอกว่าอาม่าร้องขออยากไปอยู่เองเธอก็ห่วงอาม่าเพราะย้ายไปอยู่กับพี่ชายก็จริง แต่พยาบาลเป็นคนดูแล จากนั้นก็เริ่มเกิดปัญหาและถูกกีดกันไม่ให้เข้าไปเยี่ยมอาม่าในโรงงานกระทั่งถูกฟ้องร้องว่าในปี 2560 ฐานไม่ส่งเสียอาม่า
นางมาวดี กล่าวว่า เรื่องที่ถูกกล่าวหาว่าเบิกเงินของอาม่าออกมาเกือบ 250 ล้านบาท เรื่องนี้ไม่เป็นความจริง ช่วงปี 2557 ที่อาม่าป่วยมีเงินในบัญชีประมาณ 100 กว่าล้าน ตอนนั้นการทำธุรกรรมค่อนข้างลำบาก จึงไปปรึกษาเจ้าหน้าที่ธนาคารให้เปลี่ยนเงื่อนไขการเบิกถอนเงินเป็นการพิมพ์ลายนิ้วมือ และได้รับการยินยอมจากอาม่าทุกอย่าง โดยทำการถอนเงินจากบัญชีแม่ จำนวน 4 ครั้ง มาเปิดบัญชีร่วมกันคือ “นางมาวลีและอาม่า” จากนั้นก็นำเงินไปลงทุนกองทุนรวม เพื่อเก็งกำไร ซึ่งเธอยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ธนาคารไม่มีส่วนเกี่ยวข้องตามที่ถูกกล่าวหา ถามว่าเงินหายไปถูกนำไปใช้จ่ายเป็นค่ารักษา-ดูแลอาม่า ซื้อรถเบนซ์ให้พี่ชาย ส่งลูกสาวพี่ชายเรียนเมืองนอก และปันมรดกที่เคยตกลงแบ่งกันคนละ 30 ล้านบาทนั่นเอง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง สุดช้ำ! แม่วัย 76 ปีป่วยช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ถูกลูกในไส้ยักยอกเงินเกลี้ยงบัญชีรวม 250 ล้าน









