ฝ่ายค้าน ส่งเอกสารหลักฐานแย้งความเห็น ‘มีชัย’ ยันวาระดำรงตำแหน่งนายกฯ ต้องเริ่มนับ 24 ส.ค.57

ฝ่ายค้าน ส่งเอกสารหลักฐานแย้งความเห็น ‘มีชัย’ ยันวาระดำรงตำแหน่งนายกฯ ต้องเริ่มนับ 24 ส.ค.57

ฝ่ายค้าน ส่งเอกสารหลักฐานแย้งความเห็น ‘มีชัย’ ยันวาระดำรงตำแหน่งนายกฯ ต้องเริ่มนับ 24 ส.ค.57 เชื่อเอกสารหลุดส่อเจตนาหยั่งกระแสสังคม 

พรรคร่วมฝ่ายค้าน นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน ยื่นหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ผ่านนพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาฯ ให้ส่งหลักฐานเพิ่มเติมถึงศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อประกอบการวินิจฉัยวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 8 ปี ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา 

 นพ.ชลน่าน กล่าวว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านทำหนังสือส่งเอกสารหลักฐานความเห็นเพิ่มเติมต่อศาลรัฐธรรมนูญ สืบเนื่องจากมีเอกสารที่หลุดออกมาเผยแพร่ตามสื่อต่างๆ โดยในเนื้อหาสาระอ้างถึงนายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เป็นผู้ทำหนังสือถึงศาล โดยสรุปสาระว่าวาระดำรงตำแหน่งนายกฯ ของพล.อ.ประยุทธ์ ให้เริ่มนับตั้งแต่วันที่ 6 เม.ย.60 และกรณีอ้างถึงบันทึกการประชุมของกรธ. ครั้งที่ 500 ที่นายมีชัยอ้างว่าเป็นการจดบันทึกไม่ครบถ้วน ไม่สามารถนำมาอ้างอิงได้ 

ฝ่ายค้านเห็นว่าคำชี้แจงของนายมีชัย เข้าข่ายให้การเท็จต่อศาล ฝ่ายค้านมีความเห็นคัดค้านความเห็นของนายมีชัย จึงรวบรวมความเห็นในการคัดค้านหรือโต้แย้งเอกสารดังกล่าว เพื่อยืนยันว่าวาระการดำรงตำแหน่งนายกฯ ของพล.อ.ประยุทธ์ ต้องนับวันที่ 24 ส.ค.57 จะอ้างวันที่ 6 เม.ย.60 ไม่ได้ เพราะมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้เป็นนายกฯในปี 57 และมีการดำรงตำแหน่งต่อเนื่องมา 

โดยฝ่ายค้านได้แนบบันทึกการประชุมครั้งที่ 500 โดยมีละเอียด 22 หน้า และเพื่ออ้างอิงว่าเอกสารครั้งที่ 500 มีความครบถ้วนสมบูรณ์ จึงมีการส่งบันทึกการประชุมครั้งที่ 501 เมื่อวันที่ 11 ก.ย.51 ซึ่งเป็นการประชุมครั้งสุดท้าย มีเนื้อหารับรองการประชุมของ กรธ. ครั้งที่ 497 – 500  ว่ามีความถูกต้องโดยไม่มีการแก้ไข ดังนั้น บันทึกการประชุมครั้งที่ 500 จึงมีความสมบูรณ์ 

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านร้องขอให้ประธานสภาฯ ส่งเอกสารไปยังศาลรัฐธรรมนูญโดยเร็วที่สุด เนื่องจากจะมีการประชุมนัดพิเศษในวันพรุ่งนี้ (8 ก.ย. 65) จึงหวังว่าเอกสารที่ฝ่ายค้านส่งล่าสุด ในวันพรุ่งนี้จะถึงศาลและจะได้รับไว้ประกอบการพิจารณาเพื่อที่จะได้สิ้นสงสัย

เมื่อถามว่า มองเจตนาที่เอกสารหลุดอย่างไร นพ.ชลน่าน กล่าวว่า มองได้หลายมุม ถ้าเอกสารนี้หลุดออกมาจากตรงไหนจะทำให้เราวิเคราะห์ได้ง่ายขึ้นในเจตนา แต่สิ่งที่คาดการณ์ได้ คือเหมือนการโยนให้สังคมได้วิพากษ์วิจารณ์ว่าคิดอย่างไรในประเด็นนี้ เพื่อทดสอบกระแสสังคม เพราะแนวทางการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ จะให้น้ำหนัก 2 ด้าน คือ ด้านข้อกฎหมาย และด้านข้อเท็จจริงทางรัฐศาสตร์ ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจะเป็นประโยชน์หรือเป็นโทษอย่างไรต่อสังคม สุดท้ายหากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เป็นไปตามที่นายมีชัยให้ความเห็น จะตอกย้ำถึงความขัดแย้งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตจากการอยากอยู่ยาวของนายกฯ แต่จะสร้างความขัดแย้งจนเกิดวิกฤตขนาดไหนยังไม่รู้ 

เมื่อถามว่า สิ่งที่นายมีชัยเคยระบุในบันทึกการประชุมครั้งที่ 500 ในปี 61 กับสิ่งที่นายมีชัย ชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญในครั้งล่าสุด อะไรมีน้ำหนักความน่าเชื่อถือมากกว่า นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ปี 61 มีความน่าเชื่อมากกว่า เพราะตอนนั้นนายมีชัย มีสติสัมปชัญญะครบถ้วน แต่สิ่งที่ชี้แจงล่าสุด นายมีชัยลืมแม้กระทั่งว่ามีบันทึกการประชุมครั้งที่ 501 แสดงถึงการมีสติไม่ครบถ้วน

TODAYWriterTODAY

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง