การที่เราถูกบังคับให้ทำงานที่บ้านมาตลอดปีถึงสองปีที่ผ่านมา มันพิสูจน์แล้วว่า เทคโนโลยีสำคัญขนาดไหน และจะสร้างภาระให้กับคนทำงานมากขนาดไหน ถ้าเทคโนโลยีที่ใช้ ไม่ทันสมัย มีความติดขัดอยู่เสมอ
มีผลสำรวจที่น่าสนใจจาก Adobe บริษัทเทคโนโลยีผู้ให้บริการซอฟต์แวร์สำหรับการออกแบบ และการตลาด พบว่า นอกจากทำที่ทำงานให้น่าอยู่ น่าทำงานแล้ว ยังมีอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยลดการลาออกครั้งใหญ่ได้ คือต้องใช้เทคโนโลยี และอุปกรณ์ที่ทันสมัยมากพอ
Great Resignation หรือการลาออกครั้งใหญ่ เป็นเรื่องที่เราเจอกันมาสักพักหนึ่งแล้ว เหตุผลก็มีหลายอย่าง บ้างก็เป็น อิ่มตัว อยากหาสิ่งใหม่ อยากมีอิสระ อยากลองเริ่มทำธุรกิจเป็นของตัวเอง
หน้าที่ของผู้บริหาร คือต้องทำทุกอย่างให้คนยังอยากทำงานกับเราต่อ และอยากมาสมัครทำงานกับเราเยอะๆ
ยกตัวอย่างเช่น บางที่งัดสวัสดิการปังๆ ออกมาเป็นจุดขาย บางที่ยอมลดวันทำงานเหลือแค่ 4 วัน ซึ่งเราเห็นกันมาแล้วในบริษัทญี่ปุ่นบางแห่ง หรือบางที่ชูโมเดลการทำงานแบบไฮบริด คือคนทำงานเลือกได้เลยว่าอยากทำงานที่ไหน ให้อิสระเต็มที่
แต่การทำงานแบบไฮบริด มันต้องมาพร้อม strategy ที่ว่า อุปกรณ์ เครือข่าย ซอฟต์แวร์ที่ใช้ ต้องทันสมัยมากพอ ไม่เช่นนั้น จะกลายเป็นการเพิ่มงานให้คนทำงานต้องมาแก้ไขกับเทคโนโลยีเก่าๆ อีก
[ พนักงานต้องแบ่งเวลา 5-7 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ไปแก้ไขปัญหาเทคโนโลยี ]
ผลสำรวจ Adobe ในรายงาน The Future of Time: Hybrid Workplace สำรวจความคิดเห็นของพนักงานและผู้จัดการ 1,400 คนในองค์กรขนาดใหญ่ รวมถึง SME
พบว่า มากกว่า 70% ของพนักงานและผู้จัดการพบว่า การเข้าถึงเครื่องมือดิจิทัลที่ทันสมัย เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยลดอัตรา Great Resignation ได้
แน่นอนว่าการทำงานแบบไฮบริด ช่วยลดเวลาการเดินทางไปทำงาน และทำให้มีเวลามากขึ้นสำหรับการจัดการเรื่องส่วนตัว แต่คนให้การสำรวจบอกว่า ตนเองต้องแบ่งเวลาสำหรับการทำงานที่บ้านและที่ออฟฟิศ ประมาณ 5-7 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ในการติดตั้งหรือแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับเทคโนโลยี
เมื่อถามว่าอะไรคือปัญหาท้าทายที่สำคัญที่สุดในการเปลี่ยนย้ายไปสู่การทำงานแบบไฮบริด พนักงานเกือบ 70% ตอบว่า “เทคโนโลยี”
ซึ่งครอบคลุมทั้งในส่วนของการติดตั้งระบบ การทำงานร่วมกันบนไฟล์ข้อมูล และการแก้ไขปัญหายิบย่อยอย่างสัญญาณ WiFi ขาดๆ หายๆ และการแก้ไขเอกสารที่ใช้ร่วมกันในกลุ่มเพื่อนร่วมงานที่ทำงานแบบไฮบริด
พนักงานจำนวนมากเชื่อว่า การทำงานแบบไฮบริดไม่อาจเกิดขึ้นได้ ถ้าไม่มีเครื่องมือดิจิทัลที่ทันสมัย โดย 3 ใน 4 คนระบุว่า การเข้าถึงเครื่องมือดิจิทัลก่อให้เกิดผลดีต่อการทรานส์ฟอร์มไปสู่รูปแบบการทำงานไฮบริด
[ ความเหลื่อมล้ำทางด้านเทคโนโลยี ต้องไม่มากเกินไป ]
ในบทสำรวจพูดถึงความเหลื่อมล้ำทางด้านเทคโนโลยี ยังคงเป็นปัจจัยที่กระตุ้นให้พนักงานจำนวนมากลาออก
ยกตัวอย่างเช่น หัวหน้า หรือเฉพาะคนตำแหน่งสูงๆ ที่มีโอกาสได้ใช้อุปกรณ์ หรือเทคโนโลยีแพงๆ เป็นต้น
จากการสำรวจพบว่า พนักงาน 72% และผู้จัดการ 88% ระบุว่าการเข้าถึงเครื่องมือดิจิทัลที่ทันสมัย เป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการประเมินตำแหน่งงานใหม่
นอกจากนี้ยังพบว่า พนักงาน 61% รู้สึกเหนื่อยล้าและหมดไฟในการทำงานเนื่องจากการลาออกของคนในทีม และความรู้สึกดังกล่าวยิ่งเพิ่มสูงขึ้นในกลุ่มพนักงานที่ไม่สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีที่ทันสมัย
คำแนะนำของ Adobe คือ บริษัทต่าง ๆ ควรอัพเกรดเทคโนโลยีที่มีอยู่ เพื่อปรับเปลี่ยนสถานที่ทำงานให้เป็นแบบไฮบริดอย่างเหมาะสม ช่วยให้ทุกคนทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็ตาม
และที่สำคัญก็คือ บริษัทควรเริ่มต้น Digital First Mindset ทันที ก่อนที่พนักงานจะรู้สึก Burn Out กับการต้องมานั่งแก้ปัญหาไอทีในบริษัท










