ธุรกิจท่องเที่ยวเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด จากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ผู้คนต้องกักตัวอยู่ในบ้านและไม่สามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้
แต่หลังจากที่เริ่มมีการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ในหลายประเทศ ทำให้การท่องเที่ยวภายในประเทศบางส่วนเริ่มมีการฟื้นตัวกลับมาบ้างแล้ว
ไบรอัน เชสกี้ ซีอีโอของแอร์บีเอ็นบี (Airbnb) ผู้ให้บริการด้านการจองที่พัก ได้ให้ข้อมูลกับสำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) ว่า ยอดการจองในสหรัฐฯ ช่วงระหว่างวันที่ 17 พ.ค. – 3 มิ.ย. นั้น มีจำนวนสูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปี 2019 เช่นเดียวกับที่เยอรมัน โปรตุเกส เกาหลีใต้ นิวซีแลนด์ และอีกหลาย ๆ ประเทศ ก็มีตัวเลขที่สูงขึ้นเช่นกัน
เชสกี้ได้วิเคราะห์ถึงสถานการณ์ปัจจุบันว่า ผู้คนต้องอยู่ในบ้านมาหลายเดือนและเห็นได้ชัดว่าพวกเขาอยากจะออกไปที่อื่นบ้าง แต่ก็ยังไม่กล้าที่จะเดินทางโดยเครื่องบินหรือไปต่างประเทศ อีกทั้งการ Work from Home นั้น ก็เท่ากับว่าสามารถทำงานจากที่ใดก็ได้
เมื่อเดือนที่แล้ว แอร์บีเอ็นบีได้ประกาศปลดพนักงานไป 1 ใน 4 หรือประมาณ 1,900 คน และคาดว่าจะมีรายรับเพียง 50% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว จนทำให้ต้องพับแผนการที่จะเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ไปก่อน
แต่จากตัวเลขที่ดีขึ้นในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ทำให้เชสกี้เผยว่า ยังไม่ตัดโอกาสที่จะนำบริษัทเข้าตลาดหุ้นภายในปีนี้ แต่ก็ยังไม่กล้าให้คำมั่นสัญญาเช่นกัน
ขณะที่จำนวนการค้นหาคำว่า ‘บ้านพักตากอากาศ’ ในกูเกิ้ล มีเพิ่มขึ้นจนทำให้มีปริมาณการค้นหาพอ ๆ กับปีที่แล้ว แต่ว่าคำค้นหาอย่าง ‘โรงแรม’ กลับมีตัวเลขที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด
อาร์ยาน ไดค์จ หัวหน้าฝ่ายการตลาดของกลุ่มบุ๊คกิ้ง (Booking Holdings) เผยว่า สัดส่วนของการท่องเที่ยวในประเทศได้ขยับสูงขึ้นจาก 45% เมื่อปีที่แล้ว เป็น 70% ในปีนี้
มีการวิเคราะห์ว่าในสถานที่ห่างไกลบางแห่ง อาจไม่สามารถหาโรงแรมได้ง่ายนัก และถึงแม้จะหาได้ นักท่องเที่ยวก็ยังอยากที่จะอยู่ในบ้านพักมากกว่า เพื่อที่พวกเขาจะได้ทำอาหารในครัวส่วนตัวได้ และยังสามารถหลบเลี่ยงการพบเจอผู้คนจำนวนมากได้อีกด้วย










