พลังชาวเน็ต-สื่อ วิจารณ์แล้ว เกิดความเปลี่ยนแปลงได้จริง จากตัวอย่าง 5 กรณี เมื่อไม่นานมานี้

‘ร่าง พ.ร.ก.นิรโทษกรรมวัคซีน’ หลังจาก นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.พรรคก้าวไกล ออกมาเปิดเผยเอกสาร ‘พระราชกำหนดจำกัดความรับผิดสำหรับบุคลากรสาธารณสุขในการรักษาพยาบาลผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) พ.ศ. …’ เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 2564
กระแสสังคมตั้งคำถาม – ผุดแคมเปญ ‘คัดค้านพ.ร.ก.นิรโทษกรรมเหมาเข่งคนจัดหาวัคซีน’ มีการชี้แจงจาก นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข รวมทั้ง นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.)
จนกระทั่งในที่ประชุมครม. วันที่ 10 ส.ค. 2564 นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย เบรก ร่างพ.ร.ก.ดังกล่าว ชี้ว่ายังไม่จำเป็นถึงขั้นต้องออกเป็น พ.ร.ก.

‘กฎหมายคุมสื่อ’ วันที่ 29 ก.ค. 2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ใช้อำนาจออกข้อกำหนด ฉบับที่ 29 ห้ามแพร่ข้อความที่ทำให้หวาดกลัว และให้อำนาจ กสทช. ตัดอินเตอร์เน็ตได้ ทำให้วงการสื่อทุกแขนง ลุกขึ้นมาไม่เห็นด้วย เพราะในสถานการณ์โควิด-19 ระบาด กระทบการพิจารณานำเสนอข่าวข้อเท็จจริง สู่การฟ้องร้องจากสื่อ นำโดย บริษัท รีพอร์ตเตอร์ โปรดักชั่น จำกัด กับพวกรวม 12 คน
วันที่ 6 ส.ค. 2564 ศาลแพ่งได้มีคำสั่งมาตรการคุ้มครองชั่วคราวก่อนคดีมีคำพิพากษา ไม่ให้นายกรัฐมนตรี บังคับใช้ข้อกำหนด ฉบับที่ 29 นี้ ชี้ขัดรัฐธรรมนูญ และไม่มีกฎหมายให้อำนาจตัดอินเตอร์เน็ต และวันที่ 10 ส.ค. 2564 พล.อ.ประยุทธ์ ได้ออกข้อกำหนด ฉบับที่ 31 มายกเลิก ‘ข้อกำหนด ฉบับที่ 29’

เกณฑ์กระจาย ‘ไฟเซอร์’ วัคซีน mRNA ตัวแรกของประเทศไทย มีจำกัด สัดส่วนมากที่สุดในจำนวน 1,500,000 โดส ประชาชนส่วนใหญ่ จึงเห็นพ้องกันว่า ‘บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า’ สมควรได้รับวัคซีนไฟเซอร์ ล็อตแรกนี้ไปก่อน เพราะต้องทำหน้าที่สู้ใกล้ชิดกับโควิด-19 แต่เกณฑ์ครั้งแรก จัดสรรให้เป็นเข็ม 3 เฉพาะบุคลากรที่ได้ฉีดวัคซีนซิโนแวค 2 เข็ม แต่ด้วยความพร้อมใจกันไม่ยอมของชาวเน็ต
ในที่สุด วันที่ 2 ส.ค. 2564 กระทรวงสาธารณสุข ก็ได้ประกาศเกณฑ์ บุคลากรทางการแพทย์ที่มีสิทธิ์ได้รับ ‘ไฟเซอร์’ มากขึ้น จะยกเว้นเฉพาะผู้ที่ฉีดวัคซีนเข็ม 3 เป็น แอสตร้าเซนเนก้า ฉีดสลับเข็ม และฉีดแอสตร้าเซนเนก้า 2 เข็มแล้ว

‘ไฟเซอร์ ด่านหน้า’ วัคซีนไฟเซอร์ ถูกจับตามองเรียกได้ว่า ไม่ให้คาดสายตา ทันทีกรมควบคุมโรค เริ่มกระจายวัคซีนออกคลังไปตามโรงพยาบาล เกิดภาพในโซเชียลฯ มีคนที่อยู่ในวงคนมีสี โพสต์อ้างได้ฉีดไฟเซอร์
ในขณะที่ ทางโรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์ ออกมาแถลงในวันที่ 9 ส.ค. 2564 ว่า ไม่ได้รับการจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ ตามยอดที่ขอไป เช่นเดียวกับ องค์กรแพทย์โรงพยาบาลขอนแก่น ก็ออกมายืนยันว่า ทางโรงพยาบาลขอนแก่นขอโควต้าฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้บุคลากรด่านหน้าที่ลงชื่อไว้ทั้งหมด 1,400 คน แต่กลับได้รับวัคซีนเพียง 700 โดสเท่านั้น
เกิด #ทวงไฟเซอร์ให้ด่านหน้า ชาวเน็ตไม่พอใจเรียกร้องอีกครั้ง สนับสนุนให้หาไฟเซอร์ที่หายไปให้เจอ ซึ่งก็ได้ผล วันรุ่งขึ้น 10 ส.ค. 2564 ทางรพ.สนามธรรมศาสตร์ ได้ออกมาแจ้งว่า ได้ ‘ไฟเซอร์’ ครบตามที่ขอไว้แล้ว

‘เรือดำน้ำ’ ช่วงกลางเดือน ก.ค. 2564 ระหว่างการพิจารณางบประมาณ ปี 2565 สังคมได้รับรู้ว่า กองทัพเรือมีโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำ แต่ในสถานการณ์โควิด-19 ที่ยังไม่รู้ว่าจะสิ้นสุดเมื่อใด เสียงจากโซเชียลฯ คนดังทุกวงการกระหึ่มพร้อมกัน “ไม่เห็นด้วย” ตอนแรกฝ่ายความมั่นคงยืนยันความจำเป็นที่ต้องหาจัดเรือดำน้ำ
แต่แล้ว 18 ก.ค. 2564 พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม ออกมาเปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ให้กลาโหมและกองทัพเรือไปพิจารณาถึงความเป็นไปได้ในการชะลอโครงการจัดหาเรือดำน้ำ หรือยืดเวลาออกไปก่อน สุดท้าย ผู้บัญชาการกองทัพเรือ ต้องยกเลิกโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำ กลางที่ประชุมกมธ.งบฯ 65 เมื่อวันที่ 19 ก.ค. 2564










