จีนกดดัน ‘อาลีบาบา’ ของแจ็ค หม่า ขายหุ้นสื่อทิ้ง เหตุเพราะหวั่นใช้อิทธิพลสื่อครอบงำสาธารณะ ขณะที่หลายฝ่ายจับตา อาจลุกลามถึงเสรีภาพสื่อฮ่องกง เพราะอาลีบาบาเป็นเจ้าของสื่อใหญ่ในฮ่องกงด้วย
วันที่ 16 มีนาคม 2564 เว็บไซต์ Wall Street Journal รายงานว่า รัฐบาลจีนกำลังร้องขอให้เครืออาลีบาบา (Alibaba Group) ซึ่งก่อตั้งโดยนายแจ็ค หม่า มหาเศรษฐีชื่อดังของจีน เทขายธุรกิจที่เกี่ยวกับสื่อซึ่งบริษัทถือหุ้นอยู่ เนื่องจากรัฐบาลจีนกังวลว่า เครืออาลีบาบาของนายแจ็ค หม่า อาจใช้การครอบงำสื่อสร้างอิทธิพลต่อสาธารณะ

รายงานดังกล่าวสอดคล้องกับข้อมูลของสำนักข่าวบลูมเบิร์กที่ระบุว่า ปัจจุบันเครืออาลีบาบามีธุรกิจสื่อในมือหลากหลายรูปแบบ ทั้งสื่อออนไลน์ บริษัทผลิตรายการโทรทัศน์ รวมถึงถือหุ้นใหญ่ในเครือข่ายสังคมออนไลน์ ‘Weibo’ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสังคมออนไลน์คล้ายทวิตเตอร์ที่ได้รับความนิยมในประเทศจีน
หลายฝ่ายแสดงความกังวลว่า ถ้าการกดดันดังกล่าวเป็นความจริง นอกจากจะส่งผลต่อการทำธุรกิจของอาลีบาบาแล้ว ยังอาจส่งผลต่อเสรีภาพสื่อในฮ่องกงด้วย เนื่องจากอาลีบาบาเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์ South China Morning Post ซึ่งเป็นสื่อภาษาอังกฤษที่เก่าแก่ในฮ่องกง โดยเฉพาะหากผู้ที่ซื้อต่อเป็นรัฐวิสาหกิจของจีนแผ่นดินใหญ่
ท่าทีของรัฐบาลจีนให้เครืออาลีบาบาปล่อยสื่อในมือมีความเป็นไปได้มากขึ้น หลังสื่อของทางการจีนเผยแพร่บทความชี้ว่า ประเทศจีนจำเป็นต้องจับตาเรื่องการครอบครองสื่อ เพราะสื่อมีบทบาทเป็นได้ทั้งเครื่องมือเพื่อสนับสนุนรัฐบาล รวมทั้งเป็นเครื่องมือต่อต้านรัฐบาลได้ด้วย
ก่อนหน้านี้นายแจ็ค หม่า เป็นที่รู้จักในฐานะนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในประเทศจีน และมักแสดงความเห็นต่อสาธารณะอยู่เสมอ จนกระทั่งเมื่อปลายปีที่แล้ว นายแจ็ค หม่าแสดงความเห็นวิจารณ์ทางการจีนที่มีกฎเกณฑ์ไม่เอื้อต่อการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ และหลังจากนั้นเขาก็เก็บตัวเงียบ ไม่ปรากฎตัวต่อสาธารณะนานหลายเดือน ขณะเดียวกัน ‘Ant Group’ ธุรกิจการเงินของอาลีบาบาก็ถูกระงับการเข้าตลาดหลักทรัพย์กะทันหัน เช่นเดียวกับเครืออาลีบาบาที่ถูกทางการจีนสอบสวน โดยอ้างความผิดฐานผูกขาดธุรกิจ










