เป็นขาลงของ Big Tech ที่แท้จริง หลังจาก Meta ปลดไปแล้วหมื่นกว่าราย ล่าสุด Amazon อีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ก็มีรายงานว่าจะปลด 10,000 คนเช่นกัน พนักงานที่โดนปลดครอบคลุมทั้งพนักงานสายเทคโนโลยี ที่ทำฮาร์ดแวร์ สร้างปัญญาประดิษฐ์ Alexa ฝ่ายค้าปลีก และฝ่ายทรัพยากรบุคคล
เป็นการปลดที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์การก่อตั้งบริษัท Amazon และแม้จะเป็นการปลดถึง 10,000 คน ก็คิดเป็นเพียง 3% ของจำนวนพนักงานประจำ และคิดเป็นไม่ถึง 1% ของพนักงานที่อยู่ทั่วโลกถึง 1.5 ล้านคน ซึ่งส่วนมากเป็นพนักงานแบบพาร์ทไทม์
ช่วงโควิด-19 ทำให้ Amazon สามารถทำกำไรได้มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากผู้บริโภคแห่กันไปช้อปปิ้งออนไลน์และบริษัทต่างๆ พากันไปใช้บริการคลาวด์คอมพิวติ้งของ Amazon บริษัทจึงทุ่มจ้างพนักงานเพิ่ม ทุ่มเงินเพื่อให้คนอยากมาทำงาน
หลังโควิด-19 เป็นต้นมา อัตราการเติบโตของ Amazon ตกต่ำที่สุดในรอบสองทศวรรษ และการเพิ่มคนจำนวนมากในระยะเวลาสั้นทำให้เกิดภาวะองค์กรบวม และยังบวกกับภาวะเงินเฟ้อที่ทำให้ราคาสินค้าพุ่งสูง คนทั่วไปจึงปรับเปลี่ยนพฤติกรรมลดการใช้จ่าย และล่าสุด Amazon ก็กลายเป็นบริษัทมหาชนแห่งแรกที่สูญเสียมูลค่าตลาดไป 1 ล้านล้านดอลลาร์
เมื่อเร็วๆ นี้ Amazon ปิดโปรเจกต์และส่วนงานบางส่วน เช่น Amazon Care ซึ่งเป็นบริการที่ให้การดูแลสุขภาพเบื้องต้นซึ่งไม่สามารถหาลูกค้าได้เพียงพอ, Scout หุ่นยนต์ส่งของถึงบ้าน, Fabric.com บริษัทย่อยขายอุปกรณ์ตัดเย็บ
การเลย์ออฟครั้งใหญ่ของ Amazon เคยเกิดขึ้นในปี 2001 ช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ dot-com โดยปลด 1,500 คน คิดเป็นสัดส่วน 15% ในตอนนั้น
ซีอีโอคนปัจจุบันของ Amazon คือ Andy Jassy ที่มีประสบการณ์จากฝ่ายธุรกิจคลาวด์ของ Amazon
ที่มา : The New York Times










