มีรายงานจาก Bloomberg ว่า Apple เตรียมขยายช่องทางการแสดงโฆษณาไปยังแอปอื่นๆ เพิ่มเติม จากเดิมที่แสดงเฉพาะในช่องค้นหา App Store, Apple News ฯลฯ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพื่อหารายได้เพิ่ม และตั้งเป้าเลยว่า จะสร้างรายได้จากโฆษณาให้ถึงปีละ 1 หมื่นล้านดอลลาร์ จากเดิมที่ทำได้ 4 พันล้านดอลลาร์
เท่ากับว่าผู้ใช้งานแอปของ Apple และผู้ใช้งาน iPhone อาจต้องเจอโฆษณาเยอะขึ้น ถี่ขึ้น ตามช่องทางค้นหาแอปต่างๆ ซึ่งคนจะคุ้นเคยในรูปแบบแนะนำแอปน่าโหลด
ในรายละเอียดคือ Todd Teresi รองประธานฝ่ายโฆษณาของ Apple ตั้งเป้า จะเพิ่มรายได้โฆษณาอีกสามเท่า และตอนนี้ได้เริ่มทดสอบแสดงโฆษณาในหลายๆ ที่ เช่น ผลการค้นหาในแอป Maps และจะเพิ่มในหน้าร้าน Apple Books, Apple Podcasts ในอนาคต
ดังนั้น แบรนด์ก็จะจ่ายให้ Apple เพิ่ม เพื่อให้เข้าถึงคนให้มากที่สุด เช่น ร้านอาหารจ่ายให้ Apple เพื่อให้ร้านแสดงผลเวลาคนค้นหาร้านอาหาร, สำนักพิมพ์จ่ายให้ Apple เพื่อแสดงหนังสือเล่มใหม่ เป็นต้น
ปัจจุบันรายได้จากโฆษณาของ Apple มาจากแหล่งไม่กี่แห่ง คือโฆษณาบนการค้นหาของ App Store, โฆษณาใน Apple News และ Apple Stocks และมีส่วนแบ่งของรายได้โฆษณาระหว่างการถ่ายทอดสด MLB Friday Night Baseball
แต่จากผลประกอบการล่าสุด ยอดขายฮาร์ดแวร์ของ Apple ชะลอตัวลง จึงไม่แปลกใจที่บริษัทต้องหาช่องทางรายได้ใหม่ๆ เพิ่ม ซึ่ง Apple ในสมัยสตรีฟ จอบส์ เคยทำธุรกิจโฆษณาจริงจังมาแล้วคือ iAd ในปี 2010 แต่ไม่ประสบความสำเร็จนัก
คำถามคือ แอปเปิล ได้ชื่อว่าโดดเด่นเรื่องความเป็นส่วนตัว และบริษัทเพิ่งจะเปิดใช้งานระบบ App Tracking Transparency หรือการเปิดทางเลือกให้ผู้ใช้เป็นคนเลือกเอง ว่าอยากให้แอปต่างๆ ติดตามเราเพื่อทำการโฆษณาเจาะกลุ่มหรือไม่ ซึ่งฟังก์ชั่นนี้กระทบ Facebook ตรงๆ จึงไม่แน่ใจว่าจะเกิดอะไรต่อไป ถ้าแอปเปิลมาขยายช่องทางโฆษณาเสียเอง
และที่น่าคิดต่อไปคือ ผู้ใช้งาน Apple จะโอเคหรือไม่ ถ้าต้องเจอโฆษณาเยอะขึ้นในอีโคซิสเต็ม Apple ที่เน้นความเป็นส่วนตัว และอินเตอร์เฟสหน้าตาคลีนๆ
อย่างไรก็ตาม จากรายงานของ Bloomberg การทดสอบยังอยู่ในขั้นเริ่มต้น และเป็นการพูดคุยกันภายในเท่านั้น










