รมว.คลังสั่งเพิกถอนใบอนุญาต ‘เอเชียประกันภัย’ แล้ว มีผลวันนี้!

รมว.คลังสั่งเพิกถอนใบอนุญาต ‘เอเชียประกันภัย’ แล้ว มีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป หลังขาดสภาพคล่องหนัก ไม่สามารถจ่ายค่าสินไหมได้ทันกำหนด ด้าน คปภ.บูรณาการ 13 บริษัทประกันตั้งกองทุนช่วยเหลือ

วันที่ 15 ต.ค. 2564 นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้มีคำสั่งให้เพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันวินาศภัย บริษัท เอเชียประกันภัย 1950 จำกัด (มหาชน) ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2564 เป็นต้นไป

โดยระบุว่า การเพิกถอนดังกล่าวเป็นมาตรการที่จำเป็นอย่างยิ่งในการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ผู้เอาประกันและพี่น้องประชาชน โดย คปภ.ได้ดำเนินการตามขั้นตอนและกระบวนการต่างๆ ภายใต้ข้อเท็จจริงและกฎหมาย เพื่อคุ้มครองสิทธิประโยชน์สูงสุดของประชาชน

สำหรับสาเหตุในการเพิกถอนใบอนุญาตนั้น สืบเนื่องจากบริษัทมีหนี้สินมากกว่าทรัพย์สิน โดยมีสภาพคล่องไม่เพียงพอ ไม่สามารถจ่ายค่าสินไหมทดแทนได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด และไม่สามารถจัดการแก้ไขค่าสินไหมทดแทนได้ รวมถึงไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับการแก้ไขฐานะทางการเงิน

ประกอบกับบริษัทไม่สามารถหาผู้ร่วมทุน เลิกจ้างพนักงาน ทำให้บริษัทไม่มีความพร้อมในการประกอบธุรกิจประกันภัย ถ้าให้ประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยต่อไปจะทำให้เกิดความเสียหายต่อประชาชนหรือผู้เอาประกันภัย ด้วยเหตุนี้จึงได้มีการนำเสนอบอร์ด คปภ.ให้มีการพิจารณาในวันที่ 8 ต.ค.ที่ผ่านมา

ซี่งมติบอร์ด คปภ. จึงได้มีความเห็นควรเสนอให้รมว.คลังให้เพิกถอนใบอนุญาต ซึ่งรัฐมนตรีได้พิจารณาแล้ว จึงเห็นควรสั่งเพิกถอนใบอนุญาต โดย รมว.คลังได้ลงนามให้มีผลในวันนี้ (15 ต.ค.64)

โดย คปภ.ได้เตรียมการรองรับการเพิกถอนดังกล่าว ด้วยการบูรณาการจัดตั้งกองทุนประกันวินาศภัย ให้เป็นผู้ชำระบัญชีและเข้าจ่ายค่าสินไหมทดแทน โดยจะร่วมมือกับประกันวินาศภัย 13 บริษัท ที่เข้ามารับโอนกรมธรรม์ที่ยังไม่หมดอายุ

โดยจะดำเนินการต่างๆ เช่น การรับคืนเบี้ยตามมูลค่าที่เหลือ หรืออาจใช้เป็นส่วนลด 10% ของกรมธรรม์ใหม่ แต่ไม่เกิน 500 บาท เป็นต้น

ทั้งนี้ สำนักงาน คปภ. เตรียมช่องทางช่วยเหลือผู้ที่ได้รับประกันภัยที่ยังไม่หมดอายุ มีการพัฒนาเว็บไซต์ แอปพลิเคชั่น ในการติดต่อสื่อสารกับผู้เอาประกันภัยได้อย่างรวดเร็ว และเพิ่มคอลเซ็นเตอร์อีกกว่า 40 คู่สาย และจะเพิ่มถึง 100 คู่สายในระยะต่อไป เพื่อตอบคำถามประชาชนในเรื่องดังกล่าว รวมถึงจะร่วมมือกับทุกภาคส่วนในการช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ต่อไป

อ้างอิง:

https://siamrath.co.th/n/289416

https://www.dailynews.co.th/news/378440/

https://www.facebook.com/MoneyandBankingChannel/posts/3077749149141611