AWC ควักเงิน 8.7 พันล้านบาท ซื้อ ‘โรงแรมสวิสโซเทล รัชดา’ พัฒนาสำนักงานไลฟ์สไตล์แบบใหม่ ‘Jubilee Prestige Tower’ ภายในปี 2571

AWC ควักเงิน 8.7 พันล้านบาท ซื้อ ‘โรงแรมสวิสโซเทล รัชดา’ พัฒนาสำนักงานไลฟ์สไตล์แบบใหม่ ‘Jubilee Prestige Tower’ ภายในปี 2571

โรงแรมไฮเอนด์อย่าง ‘ ‘Swissôtel Bangkok Ratchada’ (โรงแรมสวิสโซเทล บางคอก รัชดา) ถือเป็นโรงแรมหรูในย่านธุรกิจของตระกูลเก่าแก่อย่าง ‘มหาดำรงค์กุล’ ซึ่งเป็นแฟมิลี่บิซิเนสมาตั้งแต่ที่เริ่มนำเข้านาฬิกาชั้นนำหลายๆ แบรนด์ในประเทศไทย จนมาถึงธุรกิจโรงแรมและพร็อพเพอตี้

การบริหารธุรกิจโรงแรมที่เปลี่ยนมือจากรุ่นสู่รุ่น จนกระทั่งล่าสุดที่มีประกาศว่า บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ปอเรชั่น หรือ AWC ธุรกิจในเครือ TCC Group ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา

โดยบอร์ดมีมติอนุมัติให้เข้าซื้อหุ้นสามัญทั้งหมดใน ‘บริษัท เลอ คองคอร์ด โฮเต็ล จำกัด’ เพื่อเป็นเจ้าของ 100% ในโรงแรม Swissôtel Bangkok Ratchada รวมทั้งอาคารสำนักงาน เลอ คองคอร์ด โดยคิดเป็นมูลค่าการลงทุนทั้งหมด 8,704.0 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

นอกจากนี้ ยังมีมติให้บริษัทฯ และ/หรือบริษัทย่อยเข้าลงทุนเพิ่มเติมใน บริษัท เอดับลิวซี ฮอสปิทอลลิตี้ เดเวลอปเมนท์ จำกัด ซึ่งเป็นการซื้อหุ้นสามัญเพิ่มเติมอีกจำนวน 4,900 หุ้น หรือคิดเป็น 49% ในอัตราหุ้นละ 100 บาท รวมมูลค่า 490,000 บาท จากนิติบุคคล ซึ่งไม่เป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกันของบริษัทฯ และจัดเงินกู้ผู้ถือหุ้นรวมประมาณ 8,768 ล้านบาท (เงินกู้ผู้ถือหุ้น 64 ล้านบาท และเงินกู้ผู้ถือหุ้นใหม่ 8,704 ล้านบาท) 

การเข้าซื้อหุ้นครั้งนี้ทำให้บริษัทฯ และ/หรือบริษัทย่อยเป็นเจ้าของหุ้นสามัญทั้งหมด คิดเป็น 100% ในบริษัท เอดับลิวซี ฮอสปิทอลลิตี้ เดเวลอปเมนท์ จำกัด และจะดำเนินการให้บริษัทดังกล่าวเป็นผู้เข้าลงทุนในบริษัท เลอ คองคอร์ด โฮเต็ล จำกัด

การเข้าซื้อหุ้นครั้งนี้จะทำให้ AWC ได้ครอบครองอาคารสำนักงานขนาด 45,792 ตารางเมตร และโรงแรมขนาด 407 ห้อง ซึ่งถือว่าเป็นธุรกิจในพอร์ตที่อยู่ใจกลางพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญของกรุงเทพฯ เพิ่มเติม

[ AWC แพลนจะพัฒนาอาคารสำนักงานไลฟ์สไตล์แบบใหม่ ]

การเข้าซื้อหุ้นและเป็นเจ้าของแบบ 100% เพื่อซัพพอทแผนการพัฒนาโครงการใหม่ ภายใต้ชื่อว่า ‘Jubilee Prestige Tower’ ซึ่งเป็นอาคารสำนักงานไลฟ์สไตล์รูปแบบใหม่ และโรงแรมหรูภายใต้แบรนด์ JW Marriott ที่บริหารงานโดยแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล เครือโรงแรมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกนั่นเอง

ในปี 2567 ผลประกอบการของ AWC เรียกว่าเป็นช่วงโอกาสทองของธุรกิจ เพราะทำกำไรสุทธิไปกว่า 5,850 ล้านบาท เติบโตเป็นเลข 2 ดิจิต อยู่ที่ 14.6% เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน (YoY) ถือเป็นสถิตินิวไฮของ AWC ในรอบ 5 ปี

ทั้งตัวเลขการเติบโตของ AWC ที่เป็นประวัติการณ์ รวมถึงดีลการซื้อหุ้น 100% จากบริษัท เลอ คองคอร์ด โฮเต็ล จำกัด เป็นการต่อยอดแผนพัฒนาภายใต้โมเดลที่เรียกว่า ‘AWC’s Lifestyle Destination’ ซึ่งจะผสมผสานระหว่าง Wellness และ ประสบการณ์แบบ Bleisure และ Luxury MICE

โดยโครงการใหม่ดังกล่าวจะเปิดให้ดำเนินการอย่างเต็มรูปแบบ ภายใต้แบรนด์ JW Marriott ภายในปี 2571

ก่อนหน้านี้ AWC ได้เปิดเผยแผนธุรกิจใหม่ที่ต้องการจะพัฒนาทั้งโรงแรมและคอมเมอร์เชียลที่น่าสนใจ อีกประมาณ 9 โครงการไฮไลท์ ในงบลงทุนที่จัดสรรไว้ประมาณ 22,000 ล้านบาท โครงการ Jubilee Prestige Tower ก็เป็นหนึ่งใน 9 โครงการพัฒนาใหม่ที่ได้แพลนไว้ เชื่อว่าตลอดทั้งปีนี้ และปีถัดไป AWC น่าจะค่อยๆ แง้มว่าจะมีโครงการรูปแบบไหนอีกเพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ให้คนไทยและนักท่องเที่ยว

Prakaiporn WriterPrakaiporn

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง