
กรณีการแชร์ภาพเพจเฟซบุ๊กประกาศขออุปการะเด็กทารก จนถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าอาจจะเข้าข่ายผิด พ.ร.บ.เด็ก และ อาจเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ด้วยหรือไม่
.
วันที่ 10 ก.ย. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบ ครอบครัวของเด็กทารกที่ปรากฏภาพ ซึ่งได้เดินทางมาพบกับ พล.ต.ต.สุรศักดิ์ สุขแสวง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หลังจากครอบครัวได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก มีคนโทรศัพท์มาด่าทอและมีชาวเน็ตคอมเมนต์ด่าสาดเสียเทเสียอย่างไม่เป็นธรรม

ครอบครัวชี้แจงว่า แม่ของเด็ก อายุ 22 ปี เป็นใบ้และหูหนวก อยู่ในความดูแลของ ป้าวัย 31 ปี และอาวัย 35 ปี เนื่องจากพ่อของหญิงที่เป็นแม่เด็ก (ตาของเด็ก) ต้องโทษอยู่ในเรือนจำ
.
อาวัย 35 ปีบอกว่า ตนเป็นเจ้าของเบอร์โทรศัพท์ที่ถูกเพจเฟชบุ๊กนำไปเผยแพร่ในโลกออนไลน์ ยืนยันว่า ครอบครัวไม่ได้ประกาศขายเหลนชาย วัย 5 เดือน แต่ได้ติดต่อกับเพจเพื่อหาคนอุปการะเหลนจริง เนื่องจากครอบครัวไม่สามารถเลี้ยงดูไหว เพราะป้ามีลูกที่ต้องดูแลอยู่แล้ว 7 คน และกำลังตั้งท้องอีกคน จึงอยากให้เด็กมีอนาคตที่ดี อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี
.

ทางเพจแจ้งว่าขอเบอร์โทรศัพท์และรูปถ่ายของเด็กทารกไว้ เพื่อนำไปประกาศขอคนที่มีความพร้อมที่ต้องการรับเด็กไปอุปการะ จากนั้นไม่นาน ก็มีคนติดต่อเข้ามาหลายคน ตนและป้าของแม่เด็กได้ช่วยกันเลือกแล้ว 4 คนแต่ยังไม่ตัดสินใจ ระหว่างนั้นมีดาบตำรวจซึ่งเป็นญาติห่างๆ ทราบข่าว มาขอพบเด็กและเกิดถูกชะตา จึงตัดสินใจจะให้รับเด็กไปอุปการะ อยู่ระหว่างเตรียมเอกสาร ยืนยันว่าไม่มีเรื่องเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่มีการซื้อขายเด็กทารกอย่างแน่นอน
.
ส่วนสาเหตุที่เป็นประเด็น คาดว่า อาจจะเกิดจากที่ตนไปมีปากเสียงคนที่ต้องการเด็กรายหนึ่งเข้า หลังจากที่เขาทราบว่า ตนตัดสินใจจะยกเด็กให้กับดาบตำรวจ ทำให้เขาเกิดความไม่พอใจ คิดว่าดาบตำรวจรายนี้เจรจาให้เงินมากกว่า อาจจะนำเรื่องไปบิดเบือนข้อมูล

ด้าน พล.ต.ต.สุรศักดิ์ สุขแสวง ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ได้ให้ พ.ต.อ.ธนากร วงศ์สิริลักษณ์ ผกก.สภ.หัวหิน ตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด จึงเชื่อได้ว่า กรณีนี้เป็นความเข้าใจผิดไม่มีการซื้อขายเด็กทารกอย่างที่ปรากฏข้อมูลในสื่อออนไลน์ แต่เป็นความยินยอมของครอบครัวที่ต้องการจะให้เด็กได้อยู่กับครอบครัวใหม่ที่มีความพร้อมทุกด้าน และกำลังอยู่ในขั้นตอนของการเตรียมขออนุญาตรับรองบุตรบุญธรรม
ส่วนการเผยแพร่ข้อมูลขึ้นสื่อโซเซียลจนก่อให้เกิดการตื่นตระหนกและวิพากษ์วิจารณ์กันเป็นวงกว้างในครั้งนี้ เบื้องต้นผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เพราะถือว่าเป็นการนำข้อความอันเป็นเท็จขึ้นสื่อออนไลน์ จนก่อให้เกิดการเข้าใจผิดและเสื่อมเสียชื่อเสียง หากทางครอบครัวผู้เสียหาย จะแจ้งความดำเนินคดี กับผู้โพสต์หรือผู้แชร์เรื่องดังกล่าว ก็สามารถทำได้ เป็นสิทธิ์ของผู้เสียหาย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้องได้ที่
ปคม.ชี้ โพสต์โอนจองอุปการะเด็ก ยังไม่เข้าข่ายกฎหมายค้ามนุษย์
สังคมกระทรวงพม. สั่งสอบกรณีโพสต์ซื้อ-ขาย เด็กทารกจากแม่ที่ตั้งครรภ์ไม่พร้อม









