‘วิโรจน์’ ชูเป็น ‘ผู้ว่าเพื่อคนจน’ เสนอแก้หนี้ BTS 4 หมื่นล้านบาท

‘วิโรจน์’ ชูเป็น ‘ผู้ว่าเพื่อคนจน’ เสนอแก้หนี้ BTS 4 หมื่นล้านบาท

BANGKOK2022

‘วิโรจน์’ ชูเป็น ‘ผู้ว่าเพื่อคนจน’ ย้ำนโยบายเพิ่มสวัสดิการเด็ก-ผู้สูงวัย เสนอแก้หนี้ BTS 40,000 ล้าน ปลดแอกภาระจำยอมต่อสัมปทาน

วันที่ 20 พ.ค. 2565 นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัคร ผู้ว่าฯ กทม. พรรคก้าวไกล ปราศรัยใหญ่ ที่มิวเซียมสยาม โดยเน้นนโยบายเพิ่มเบี้ยยังชีพ จาก 600 เป็น 1,000 บาท แก้ปัญหาเติมสวัสดิการเด็กเล็กจาก 600 บาท/เดือน ขึ้นมาเป็น 1,200 บาท/เดือน พร้อมยืนยันเปิดสัญญารถไฟฟ้า กทม. มีหนี้ที่ติดค้าง BTS อยู่ประมาณ 37,000 ล้านบาท ที่ปัจจุบันดอกเบี้ยเดินกลายเป็น 39,000 ล้านบาท และทบไปเรื่อยๆ ถ้าไม่ทำอะไรหนี้ก้อนนี้จะเป็นภาระให้ผู้ว่าฯ คนต่อไป ต้องยอมต่อสัญญาสัมปทาน

“ผมอยากทวงถาม พล.อ.ประยุทธ์ ว่าไม่ต้องมาสั่งสอนผู้ว่าคนต่อไป แต่ให้คืนเงินภาษีที่ดินที่รัฐบาลผลักภาระมาให้คนกรุงเทพ 30,000 ล้านบาท ตัดงบประมาณ กทม. ที่ไป “สนับสนุนนโยบายรัฐบาล” 4,000 ล้านบาท และขอสภากรุงเทพให้นำเงินสะสม กทม. มาใช้หนี้ที่เหลือเพื่อลดหนี้ก้อนนี้ไปก่อน” นายวิโรจน์ ระบุ

นายวิโรจน์ ย้ำด้วยว่า ผู้ว่าฯ และ ส.ก. จากพรรคก้าวไกล เตรียมพร้อมอย่างเต็มที่ไปยกมือให้กับการจัดสรรงบประมาณสร้างเมืองที่คนเท่ากันและแก้ไขกฎระเบียบเมืองให้เป็นธรรม

สำหรับปราศรัยใหญ่ครั้งนี้ ยังมี นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ชี้ 4 เหตุผลที่ต้องเลือก ‘วิโรจน์’ คือ 1. จะเป็นผู้ว่าฯ ที่พร้อมชนกับต้นตอปัญหา 2. จะเป็นผู้ว่าฯ กทม.ของคนส่วนใหญ่ คนจน คนด้อยโอกาส เป็นเมืองที่คนเท่ากัน 3. จะเป็นผู้ว่าฯ กทม.นักบริหาร เพราะมีประสบการณ์มาแล้วกับองค์กรเอกชนขนาดใหญ่ และ 4. จะเป็นผู้ว่าฯ กทม. ที่พร้อมทลายข้อจำกัดทุกอย่าง

“การเลือกตั้งครั้งนี้ เรามีผู้สมัครดีๆ มากมาย มีนโยบายดีๆ มากมาย หรือแม้แต่ในอดีตก็มีผู้ว่าฯ ดีๆ มากมายเข้ามา แต่ทว่าก็ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ติดข้อจำกัดเต็มไปหมด เพราะปัญหากรุงเทพฯ ไม่ใช่เพียงเรื่องของการแก้รถติด แก้ควันพิษ แก้น้ำท่วม แก้เรื่องขยะ เท่านั้น แต่มันมีปัญหาในเชิงโครงสร้าง มีปัญหาการปล่อยปละละเลยจนเคยชิน ถ้าเปรียบกรุงเทพฯ เป็นพื้นที่ก็เสมือนว่าเป็นพื้นที่ที่เป็นป่ารกชัฎ มีขวากหนาม มีงูพิษ มีสัตว์ร้ายมากมาย ที่ไม่ว่าใครเข้ามาเป็นผู้ว่าฯ ต่อให้มีความตั้งใจดีอย่างไร มีความคิดสร้างสรรค์อย่างไร มีนโยบายดีอย่างไร ถ้าไม่ถากถางเส้นทาง ไม่แก้โครงสร้างก็ไปต่อไม่ได้ ดังนั้น ในช่วงเวลาและสถานการณ์แบบนี้ ผู้ว่าฯ กทม.ต้องชื่อวิโรจน์เท่านั้น กรุงเทพฯ เวลานี้ต้องมีผู้ว่าฯ ที่พร้อมชนกับต้นตอปัญหา และมีนโยบายที่สามารถบริหารได้เพื่อประโยชน์ของคนส่วนใหญ่ เพื่อคนจนคนที่ถูกเอารัดเอาเปรียบ และเพื่อทลายข้อจำกัดต่างๆ แผ้วถางทางพื้นที่นี้ให้กับคนรุ่นต่อไป” นายปิยบุตร กล่าว

 

แท็กที่เกี่ยวข้อง
TODAYWriterTODAY

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง