ศาลพิพากษาตัดสินประหารชีวิต พันตำรวจโทบรรยิน ตั้งภากรณ์ กรณีฆาตรกรรมอำพรางเสี่ยชูวงษ์

ศาลพิพากษาตัดสินประหารชีวิต พันตำรวจโทบรรยิน ตั้งภากรณ์ กรณีฆาตรกรรมอำพรางเสี่ยชูวงษ์

ศาลพิพากษาตัดสินประหารชีวิต พันตำรวจโทบรรยิน ตั้งภากรณ์ กรณีฆาตรกรรมอำพรางเสี่ยชูวงษ์

วันที่ 20 ม.ค. 2564 ศาลอาญาพระโขนงนัดฟังคำพิพากษาในคดีนางศิริรัตน์ แซ่ตั๊ง ภรรยาของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง หรือเสี่ยจืด นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างระดับประเทศ กับพวก และพนักงานอัยการ ร่วมกันเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พันตำรวจโทบรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และอดีต ส.ส.นครสวรรค์  ในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันฆ่าผู้อื่นเพื่อจะเอาหรือเอาไว้ซึ่งประโยชน์อันเกิดแต่การที่ตนได้กระทำความผิดอื่น เพื่อปกปิดความผิดอื่นของตน หรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้

กรณีเมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 2558 นายชูวงษ์ วัย 50 ปี เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถยนต์หรูยี่ห้อเลกซัสสีดำ ทะเบียน ภฉ 1889 กทม. ของนายชูวงษ์ชนต้นไม้ โดยมี พ.ต.ท.บรรยิน จำเลย เป็นคนขับ มีนายชูวงษ์นั่งข้างๆ รถยนต์เสียหลักชนต้นไม้ในเขตประเวศ กทม. เป็นเหตุให้นายชูวงษ์ ถึงแก่ความตาย โดยโจทก์มีพยานหลักฐานเชื่อได้ว่าเป็นการฆาตกรรมอำพรางนายชูวงษ์ แต่ พ.ต.ท.บรรยิน ให้การปฏิเสธอ้างเป็นอุบัติเหตุ

ศาลเริ่มอ่านคำพิพากษาเวลา 9 นาฬิกา 30 นาที โดย ให้ พ.ต.ท.บรรยิน  ที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำกลางบางขวาง ฟังผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์  ซึ่งศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานของโจทก์ที่มีผู้เชี่ยวชาญทางด้านต่าง ๆ และการทำคดีของกองบังคับการปราบปราม ชี้ให้เห็นหลักของนิติวิทยาศาสตร์ที่แสดงได้ชัดเจนว่าการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ ไม่ได้เกิดจากอุบัติเหตุรถชนต้นไม้ตามที่ พ.ต.ท.บรรยินกล่าวอ้าง  / ซึ่งเมื่อพิจารณาร่วมกับคดีปลอมเอกสารการโอนหุ้นของศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่มี พ.ต.ท.บรรยิน เป็นจำเลย จึงเชื่อได้ว่ามูลเหตุจูงใจในการก่อเหตุฆาตกรรมครั้งนี้ เกิดจากการปลอมแปลงเอกสารในการโอนหุ้น

ศาลจึงพิพากษาว่า พ.ต.ท.บรรยิน มีความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน ให้ลงโทษประหารชีวิต ส่วนคำร้องที่โจทก์ขอให้ศาลนัดโทษต่อจากสองคดีก่อนหน้านี้นั้น ในคดีนี้ศาลลงโทษประหารชีวิตซึ่งเป็นโทษสูงสุดแล้ว ให้ยกคำร้อง

ขณะที่บรรยากาศในวันนี้ นางวันเพ็ญ ธนธรรมศิริ พี่สาวนายชูวงษ์ ก็ได้มาฟังคำพิพากษาด้วย โดยกล่าวว่า รู้สึกดีใจและพอใจกับคำตัดสินของศาล คุ้มค่ากับการรอคอยมากว่า 5 ปี   ส่วนตัวเชื่อว่ามีคนอื่นที่ร่วมกันฆาตกรรมน้องชายตนเอง เช่นเดียวกับคดีอุ้มฆ่าพี่ชายผู้พิพากษา อยากขอบคุณคณะผู้พิพากษาที่ให้ความเป็นธรรม รวมถึงขอแสดงความเสียใจไปยังผู้พิพากษาที่ต้องสูญเสียพี่ชายจากคดีโอนหุ้นน้องชายตนเองอีกด้วย

ทั้งนี้นางวราภรณ์ ตั้งภากรณ์ ภรรยา นายวรภัทร์ ตั้งภากรณ์ ลูกชาย และ นางสาวบุษยา ตั้งภากรณ์ ลูกสาวของ พ.ต.ท.บรรยิน พร้อมทีมทนายความเดินทางมาศาลเพื่อฟังพิพากษาด้วย แต่ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนถ่ายภาพ

TODAYWriterTODAY

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง