ความนิยมดื่มกาแฟนอกบ้านมากขึ้นทุกปี จากสถิติคนไทยบริโภคกาแฟในประเทศสูงถึงปีละ 70,000 ตัน
ถ้าจะให้เห็นภาพชัดมากขึ้นไปอีก ให้ดูปริมาณการเพิ่มขึ้นของสาขาร้านกาแฟแบรนด์ดังต่างๆ โดยเฉพาะกาแฟสัญชาติไทยที่มีต้นกำเนิดมาจากร้านกาแฟในสถานีบริการน้ำมัน
ก่อนจะขยายธุรกิจมาเป็นเชนร้านกาแฟที่มีสาขาทั่วประเทศ เรียกว่าเป็นตัวชี้วัดเทรนด์ความนิยมบริโภคกาแฟของคนไทยในเวลานี้ได้ดี
TODAY Bizview มีโอกาสได้พูดคุยกับ ‘ปริญญา กิตติการุญจิต’ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท บางจากรีเทล จำกัด (BCR) เจ้าของเชนร้านกาแฟ ‘อินทนิล’ ที่ครองส่วนแบ่งการตลาดเครือข่ายร้านกาแฟอันดับ 2 ของประเทศ ถึงโอกาสเติบโตและแผนขยายธุรกิจ
โดย ‘ปริญญา’ กล่าวว่า แบรนด์อินทนิลอยู่ในตลาดนี้กว่า 17 ปี ปัจจุบันมีสาขามากกว่า 1,000 สาขา
ปีนี้ถือเป็นปีแรกที่ยอดขายของอินทนิลโต 2,000 ล้านบาท เติบโตจากปีที่ผ่านมา 14% สามารถจำหน่ายกาแฟได้มากถึง 30 ล้านแก้ว
ส่วนหนึ่งได้จุดแข็งมาจากฐานลูกค้าสมาชิกบางจากกรีนสไมล์ที่มีอยู่ 7 ล้านราย ซึ่งเป็นฐานลูกค้าที่เพิ่มขึ้น 2 เท่าจากปีที่แล้ว
[ ทิศทางธุรกิจในอนาคต ]
ปัจจุบันสาขาของร้านกาแฟอินทนิลที่อยู่ในสถานีบริการน้ำมันเฉลี่ย 40% ขณะที่อีก 60% เป็นแฟรนไชส์สาขากระจายไปตามสถานที่ต่าง ๆ อาทิ มหาวิทยาลัย โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า ฯลฯ
โดยแผนธุรกิจของ BCR ตั้งเป้าขยายสาขาร้านกาแฟอินทนิล 2,500 สาขา ภายในอีก 5 ปีนับจากนี้
สาขาใหม่ ๆ ที่เปิดจะวางคอนเซ็ปต์สไตล์การตกแต่งร้านให้มีรูปแบบใหม่ ๆ ที่ต่างไปจากเดิม อาทิ ร้านกาแฟอาร์ตทอย และโคเวิร์กกิ้งสเปซ
ส่วนการขยายธุรกิจในต่างประเทศวางแผนขยายสาขาไปยังประเทศในอาเซียน โดยเฉพาะลาว และกัมพูชา เนื่องจากมีพฤติกรรมการดื่มกาแฟคล้ายกับคนไทย
[ สร้างแคมเปญการตลาดฮีลใจคนรุ่นใหม่ วัยทำงาน พร้อมเปิดตัวมาสคอตใหม่ ]
‘ปริญญา’ เล่าว่า แผนการตลาดของอินทนิลจากนี้ เน้นใช้การตลาดแบบ ‘สร้างความสุข’ เพื่อขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่และวัยทำงาน (New Gen & Young Working Age) ผ่านแคมเปญพิเศษที่ชวนทุกคนมาอินทุกโมเมนต์ความสุข
โดยการนำคาแรคเตอร์การ์ตูนดังระดับสากลฝีมือคนไทย คุณน้อยหน่า-สุริยา อุทัยรัศมี มาสร้างเป็นมาสคอตใหม่ของแบรนด์ อาทิ น้องอายะ (Aya) น้องอามิ (Ami) และตัวละครอื่น ๆ ซึ่งจะมาร่วมสร้างสีสันความสุขสร้างประสบการณ์ที่ดีให้ผู้บริโภค
โดยลูกค้าสามารถร่วมสนุกด้วยการสแกนคิวอาร์โค้ดเช็คอินถ่ายภาพเลือกกรอบรูปลายการ์ตูนต่าง ๆ แชร์ไปในโซเชียลมีเดียได้
นอกจากนี้ยังแจก Reusable Cup 5 สี 5 ลายฟรี ผ่านการซื้อเครื่องดื่มอินทนิลเมนูใดก็ได้ 2 แก้วขึ้นไปต่อ 1 ใบเสร็จ
และในเร็ว ๆ นี้ อินทนิลยังเตรียมออกเมนูใหม่ อาทิ ‘สลัชชี่’ โกโก้และชาไทยปั่นเกล็ดน้ำแข็งปั่นมาพร้อม ‘ซอฟต์เสิร์ฟ’ 4 รสชาติ
อีกหนึ่งจุดที่ ผู้บริหารบางจากรีเทลให้ความสำคัญ คือ การอบรมให้บาริสต้าสามารถรักษามาตรฐานการบริการและรสชาติให้ได้ทุกครั้งที่ลูกค้ามาใช้บริการ ด้วยคอนเซปต์ โฮมมี่ (Homey) ที่ให้ร้านอินทนิลเป็นพื้นที่แห่งความอบอุ่นเสมือนบ้านอีกหลัง
พร้อมกันนั้นก็ยังคงคอนเซ็ปต์ของแบรนด์ที่เป็นภาพจำคือการรักษาสิ่งแวดล้อม ซึ่งบรรจุภัณฑ์อินทนิลเลือกใช้แก้วที่สามารถย่อยสลายในดินได้ภายใน 180 วัน และยังสามารถใช้เพาะชำกล้าไม้แทนการใช้ถุงพลาสติกสีดำได้อีกด้วย
“แบรนด์อินทนิลคว้ารางวัล Superbrands ด้านความเป็นเลิศในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ถึง 3 ปีซ้อน ผ่านการได้รับโหวตสูงสุดจากผู้บริโภคทั่วประเทศ
รางวัลนี้สะท้อนให้เห็นว่าอินทนิลเข้าไปยืนอยู่ในใจผู้บริโภคเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผ่านการส่งมอบบริการที่ดีและจุดยืนในด้านการรักษาสิ่งแวดล้อมที่ผู้คนจดจำแบรนด์ได้เสมอมา”










