พล.ต.ต.เอกรักษ์ คณะทำงานแก้ปัญหาจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชี้ถึงเวลา ยกเครื่องบิ๊กไบค์ ต้องมีใบขับขี่ เชื่อจะช่วยลดอุบัติเหตุได้
พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 คณะทำงานแก้ปัญหาจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ในรายการเจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand ถึงกรณีส.ต.ต.นรวิชญ์ บัวดก ตำรวจกองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชนขี่รถบิ๊กไบค์ชน พญ.วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล แพทย์ผู้ชำนาญการด้านจักษุวิทยา ภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ขณะเดินข้ามถนน บริเวณทางม้าลายหน้าสถาบันไตภูมิราชนครินทร์ ถนนพญาไท จนเสียชีวิตว่า วันนี้การละเมิดกฎหมายจราจรในไทยค่อนข้างสูงคนไทยไม่มีวินัยจราจร เราพยายามปรับกฎหมายให้คนมีวินัยมากขึ้น เคสคุณหมอกระต่าย ตนดูข่าวด้วยความรู้สึกเสียใจว่าเราทำหน้าที่ดูแล ปัญหาจราจรไม่ดีหรือเปล่า แล้วจะทำอย่างไรให้คนไทยใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย
กรณีนี้มีรถที่ก่อเหตุเป็นบิ๊กไบค์ ที่ผ่านมาตนต่อสู้กับเรื่องนี้มาตลอดว่าให้รถจักรยานยนต์มีใบขับขี่สองประเภท คือรถจักรยานยนต์ธรรมดา และรถบิ๊กไบค์ เพราะการขับขี่และน้ำหนักรถต่างกันมาก ซึ่งในต่างประเทศเขาแยกใบขับขี่รถจักรยานยนต์เป็น 2 ประเภท คือเล็กและใหญ่ เพราะน้ำหนักและการขับขี่ต่างกันมาก
พล.ต.ต.เอกรักษ์ กล่าวว่าถึงเวลาที่เราควรมีมาตรการควบคุมการอนุญาตขับขี่รถบิ๊กไบค์ให้ปลอดภัยกับสังคมมากกว่านี้ได้แล้ว ตนอยากให้สัคมส่งเสียงไปถึงรัฐบาลว่าวันนี้ถึงเวลาแล้วที่ไทยมีใบอนุญาตขับขี่รถจักรยานยนต์เป็นสองประเภท เชื่อว่านี่จะบรรเทาการเกิดอุบัติเหตุในไทยได้อย่างดี
กรณีที่เหตุการณ์ครั้งนี้ ตำรวจเป็นคนขี่หลังจากนี้ตนต้องนำข้อมูลเข้าสู่คณะทำงาน ว่าแบบนี้ต้องมีมาตรการลงโทษตำรวจ ว่าต้องถูกโทษแรงกว่าประชาชนธรรมดา และต้องมีโทษทางวินัยที่รุนแรงมากขึ้น
พล.ต.ต.เอกรักษ์ ยังกล่าวอีกว่า ส่วนรถคันนี้ไม่เสียภาษีมา 2 ปี นั้น วันนี้ในถนนมีลักษณะอย่างนี้มากและปัญหานี้เสียแค่ค่าปรับ คนที่มีเงินจ่ายถ้าทำผิดจ่ายค่าปรับก็จบ ในอนาคตที่เราเร่งทำ คือมาตรการตัดคะแนนความประพฤติ ถ้าคะแนนหมดจะห้ามขับรถ 90 วัน
เช่นเดียวกับเรื่องกฎหมายเกี่ยวกับทางม้าลาย ตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 22 ผู้ขับขี่ต้องขับรถด้วยความระมัดระวัง และต้องให้สิทธิแก่คนเดินเท้าในทางข้ามหรือรถที่มาทางขวาก่อน ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา 22 มีโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท ซึ่งกฎหมายนี้ใช้มานานแล้วและค่าปรับสำหรับคนมีเงินก็ไม่มากตนมองว่าควรปรับน้ำหนักการลงโทษให้สูงขึ้น คือปรับแต้ม ซึ่งตอนนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติประชุมร่วมกับกระทรวงคมนาคม เพราะต้องเซ็นเอ็มโอยูร่วมกับกรมการขนส่งทางบก ซึ่งขณะนี้กำลังคุยกันอยู่ คาดว่าจะมีการประกาศใช้เร็วๆ นี้










