เป็นประเด็นที่น่าจับตาไม่น้อยในปี 2024 สำหรับตลาดคริปโตเคอเรนซี่กับปรากฏการณ์ ‘บิตคอยน์ ฮาล์ฟวิ่ง’ (Bitcoin Halving) หรือการที่รางวัลจากการขุดบิตคอยน์จะถูกปรับลดลงครึ่งหนึ่ง
เนื่องจาก ‘ซาโตชิ นากาโมโตะ’ ได้ทำการฝังคำสั่งไว้ในเทคโนโลยีบล็อกเชน ที่กำหนดไว้ว่า ‘ทุกๆ ครั้งที่พบบล็อกใหม่จำนวน 210,000 บล็อก ให้ระบบลดจำนวนรางวัลลงครึ่งหนึ่งเสมอ
โดยปรากฏการณ์นี้จะวนกลับมาเกิดขึ้นในทุกๆ 4 ปี หรือเมื่อมีการค้นพบบล็อกใหม่ครบจำนวน 210,000 บล็อก เพื่อเป็นการสร้างสมดุลขึ้นในระบบและเพื่อป้องกันปัญหาบิตคอยน์เฟ้อในอนาคต
[ รางวัลจากการขุดบิตคอยน์ ]
หลังจากบิตคอยน์เปิดตัวในปี 2009 ด้วยรางวัลบล็อคเริ่มต้นคือ 50 บิตคอยน์/บล็อก และการลดลงครั้งแรกของรางวัลเกิดขึ้นจากการฮาล์ฟวิ่งรอบที่ 1 ในปี 2012 ทำให้รางวัลที่ได้รับจากการขุดลดลงเหลือ 25 บิตคอยน์/บล็อก
ถัดมาคือรอบที่ 2 ในปี 2016 รางวัลลดลงเหลือ 12.5 บิตคอยน์/บล็อก จาก 25 บิตคอยน์/บล็อก
และรอบที่ 3 ในปี 2020 รางวัลลดลงเหลือ 6.25 บิตคอยน์/บล็อก จาก 12.5 บิตคอยน์/บล็อก
ส่วนรอบล่าสุดที่กำลังจะเกิดขึ้นในเดือนเมษายน 2024 คาดรางวัลจะลดลงเหลือ 3.125 บิตคอยน์/บล็อก จาก 6.25 บิตคอยน์/บล็อก
และรอบถัดไปคาดการณ์ว่าจะเกิดขึ้นในอีก 4 ปีข้างหน้าหรือปี 2028 คาดรางวัลจะลดลงเหลือ 1.56 บิตคอยน์/บล็อก จาก 3.125 บิตคอยน์/บล็อก
ทั้งนี้ หากคำนวณดูแล้วจากบิตคอยน์ทั้งหมด 21 ล้านเหรียญ ก็คาดว่าบิตคอยน์น่าจะถูกขุดออกมาจนครบในปี 2140
[ ฮาล์ฟวิ่งดันราคานิวไฮทุกครั้ง ]
นอกจากนี้ การเกิดฮาล์ฟวิ่งยังส่งผลต่อราคาเหรียญบิตคอยน์ (BTC) และในอดีตการเกิดปรากฏการณ์ฮาล์ฟวิ่ง 3 ครั้งที่ผ่านมา ราคาเหรียญมักจะพุ่งสูงขึ้นอย่างรุนแรงจนทำนิวไฮเสมอก่อนค่อยๆ ปรับลดลงหลังจากนั้น
ฮาล์ฟวิ่งรอบที่ 1 เกิดขึ้นเมื่อ 28 พฤศจิกายน 2012 และราคาขึ้นทำ All Time High หลังฮาล์ฟวิ่งเมื่อ 2 ราคาเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2013 ที่ราคา 1,042 ดอลลาร์ หรือ 37,657 บาท
ฮาล์ฟวิ่งรอบที่ 2 เกิดขึ้นเมื่อ 16 กรกฎาคม 2016 ราคาขึ้นทำ All Time High หลังฮาล์ฟวิ่งเมื่อ 13 ธันวาคม 2017 ที่ราคา 17,500 ดอลลาร์ หรือ 632,450 บาท เพิ่มขึ้นจากครั้งที่ 1 = 1,579%
ฮาล์ฟวิ่งรอบที่ 3 เกิดขึ้นเมื่อ 11 พฤษภาคม 2020 ราคาขึ้นทำ All Time High หลังฮาล์ฟวิ่งเมื่อ 10 พฤศจิกายน 2021 ที่ราคา 68,789 ดอลลาร์ หรือ 2,486,034 บาท เพิ่มขึ้นจากครั้งที่ 2 = 293%
ส่วนฮาล์ฟวิ่งรอบที่ 4 คาดว่าจะเกิดขึ้นวันที่ 21 เมษายน 2024 คงต้องรอติดตามกันว่าราคาจะเป็นอย่างไร โดยมีการคาดการณ์ว่าราคาบิตคอยน์รอบนี้อาจจะพุ่งขึ้นไปถึง 1.6 แสนดอลลาร์ หรือ 5,730,240 บาทเลยทีเดียว
[ วัฏจักรที่สมดุลของบิตคอยน์ ]
จะเห็นได้ว่า เมื่อเกิดปรากฏการณ์ฮาล์ฟวิ่ง ราคาบิตคอยน์จะมีการเติบโตอย่างเป็นวัฏจักร คือ พุ่งขึ้นในช่วงปีแรก, ร่วงลงในปีถัดมา, เริ่มนิ่งติดดอย และเติบโตจนทำนิวไฮอีกรอบ
และหากสังเกตดีๆ จะพบว่า ในช่วงที่ราคาร่วงลงหลังจากพุ่งขึ้นไปทำนิวไฮแต่ละครั้ง ไม่มีครั้งไหนที่ราคาร่วงลงไปจนต่ำกว่าระดับราคาก่อนเข้าฮาล์ฟวิ่งเลย ทำให้นักลงทุนหลายคนใช้โอกาสในช่วงที่ราคาร่วง เข้าช้อนซื้อบิตคอยน์ไว้ทำกำไรในฮาล์ฟวิ่งครั้งถัดไป
นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงของราคาบิตคอยน์ในปรากฏการณ์ฮาล์ฟวิ่ง ยังสัมพันธ์กับกฎดีมานด์และซัพพลายอีกด้วย กล่าวคือ เมื่อเกิดฮาล์ฟวิ่ง มีเหรียญเกิดใหม่น้อยลง แต่จำนวนคนสนใจบิตคอยน์เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ราคาพุ่งสูงขึ้นอย่างแรง
และเมื่อราคาพุ่งขึ้นไป นักลงทุนบางรายที่ตุนบิตคอยน์ไว้ก็จะเทขายเพื่อนำเงินออกมา จนส่งผลให้ราคาร่วง ซึ่งเมื่อราคาลดลง นักลงทุนที่เคยออกจากตลาดไปก็กลับมาสนใจบิตคอยน์ใหม่และเข้าสู่ตลาดอีกครั้งนั่นเอง










