ขึ้นแรง ลงแรง สำหรับเหรียญคริปโตฯ สกุลใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง Bitcoin (BTC) ล่าสุดราคาลดฮวบ แม้ใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา จะปรับขึ้นเล็กน้อยแต่ก็ยังอยู่ที่ประมาณ 35,000 เหรียญ เมื่อเทียบกับช่วงร้อนแรงในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ราคาเคยพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยไปแตะที่ราว 69,000 เหรียญ ตอนนี้มูลค่าหายไปเกือบครึ่ง
สาเหตุมาจากการเคลื่อนไหวของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ที่มีแนวโน้มคลายมาตรการเชิงรุกทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วในไม่กี่เดือนต่อจากนี้ หลังจากอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น อาจส่งผลต่อมาตรการทางการเงินต่างๆ ทำให้นักลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงดังกล่าว
ผลกระทบดังกล่าว ส่งผลต่อเหรียญ Bitcoin ราคาลดลงกว่า 20% นับตั้งแต่ต้นปี เช่นเดียวกับเหรียญ Ethereum (ET) ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่มีค่าที่สุดเป็นอันดับสองของโลก ก็ได้ร่วงลงกว่า 30% ตั้งแต่ต้นปีเช่นกัน
ข้อมูลจากเว็บไซต์ Coindesk รายงานว่า ประสิทธิภาพรายสัปดาห์ของเหรียญ Bitcoin ยังจัดว่าแย่ที่สุดในรอบ 8 เดือน นับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2564 ซึ่งช่วงนั้น Bitcoin ต้องเผชิญกับการปราบปรามห้ามขุด Bitcoin ของรัฐบาลจีน และกระแสทวีตของ Elon Musk ที่ได้บอกว่าการขุด Bitcoin นำไปสู่ปัญหาด้านส่ิงแวดล้อม
ปัจจุบัน ตลาดคริปโตฯ ยังต้องเผชิญกับการควบคุมโฆษณาที่เข้มงวดด้วย โดยในหลายประเทศได้กำหนดกฎเกณฑ์การประชาสัมพันธ์ ทำการตลาดของบริษัทผู้ให้บริการด้านสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อลดความเสี่ยงต่อผู้ลงทุนรายย่อย เนื่องจากตลาดนี้มีความผันผวนสูง เช่นในสิงคโปร์ อังกฤษ และสเปน
ส่วนด้านธนาคารกลางของรัสเซียก็ได้ออกมาห้ามขุดและซื้อขายคริปโตฯ เพราะมองว่าสกุลเงินดิจิทัลอาจเป็นภัยคุกคามทางการเงิน และส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ แม้จะมีข่าวออกมาว่ารัสเซียเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการขุดคริปโตฯ ใหญ่ที่สุดในโลกก็ตาม
เช่นเดียวกับประเทศอินเดีย ตอนนี้กำลังเตรียมร่างกฎหมายควบคุมสกุลเงินดิจิทัล เพื่อจัดการปัญหาความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นด้วยเช่นกัน










