ถือเป็นเหตุการณ์ service outage ครั้งใหญ่แห่งปี เมื่อพีซี อุปกรณ์ Windows ทั่วโลกประสบเหตุ BSOD blue screen of death หรือจอฟ้าที่ผู้ใช้งานพีซี Windows รู้จักกันเป็นอย่างดี
พนักงานชาวออฟฟิศหลายคนดีใจที่ไม่ต้องทำงาน แต่ผลกระทบของเหตุการณ์นี้ลุกลามชนิดขำไม่ออก บริษัทห้างร้าน ซูเปอร์มาร์เก็ต สำนักข่าวออกอากาศไม่ได้ สายการบินระบบล่ม จนต้องเขียนใบบอร์ดดิ้งพาสด้วยมือ
เรื่องราวของเหตุการณ์นี้เริ่มต้นจากบริษัทความปลอดภัยไซเบอร์ CrowdStrike ให้บริการโซูชั่นความปลอดภัยแก่องค์กรดังทั่วโลก รวมถึงเครื่องพีซีระบบ Windows ของไมโครซอฟท์ โดยเฉพาะเครื่องพีซีในองค์กร
เมื่อ CrowdStrike ทำการอัพเดทระบบและเจอบั๊กหรือความผิดพลาด ทำให้ผลกระทบเกิดขึ้นเป็นวงกว้าง คาดว่ามีองค์กรที่ติดตั้งระบบเซนเซอร์ความปลอดภัยของ CrowdStrike ไม่น้อย
สรุปความเสียหายจนถึงเวลาที่เขียนนี้
– สายการบิน American Airlines, Delta Airlines, United Airlines และ Allegiant Air ระงับเที่ยวบินของสายการบินต่างๆ ของสหรัฐฯ โดยอ้างว่ามีปัญหาด้านการสื่อสาร
– สถานี Sky News ของอังกฤษ ไม่สามารถออกอากาศรายการข่าวภาคเช้าได้
– สนามบินเมลเบิร์นในออสเตรเลีย ประสบปัญหาทางเทคส่งผลกระทบต่อขั้นตอนการเช็คอิน
– ข้อมูลของ FlightAware เผยมีเที่ยวบินล่าช้ามากกว่า 12,500 เที่ยวบิน และการยกเลิก 679 เที่ยวทั่วโลก
– ธนาคารและสถาบันการเงินออสเตรเลีย, อินเดียและแอฟริกาใต้ เตือนลูกค้าเกี่ยวกับการหยุดชะงักในการให้บริการ
– สนามบินดอนเมือง ฮ่องกง พบคนหนาแน่น จากการรอคิวเช็คอินที่ทำได้ช้าลงเพราะระบบขัดข้อง
ส่วนผลกระทบในไทยก็มีให้เห็นเช่นกัน จากการโพสต์ความเคลื่อนไหวของผู้ใช้งานใน X ที่ประสบปัญหาจอฟ้า ทำงานไม่ได้
– สายการบินแอร์เอเชีย บอกเกิดเหตุขัดข้องระบบ Microsoft Azure กระทบขั้นตอนการจอง เช็คอิน
– โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ ประกาศงดให้บริการ เนื่องจากระบบขัดข้อง
จากเหตุการณ์นี้ ทำให้คนทั่วโลก ได้ยินคำว่า CrowdStrike เป็นครั้งแรก และได้รู้ว่า บริษัทไซเบอร์แห่งนี้ มีลูกค้าอยู่ไม่น้อยเลย
George Kurtz ซีอีโอ CrowdStrike ออกแถลงการณ์ว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับการโจมตีไซเบอร์ แต่เป็นผลกระทบจากข้อบกพร่องในการอัปเดตสำหรับโฮสต์ Windows โดยโฮสต์ Mac และ Linux จะไม่ได้รับผลกระทบ แนะนำให้องค์กรต่างๆ สื่อสารกับตัวแทน CrowdStrike ผ่านช่องทางอย่างเป็นทางการ เพื่อป้องกันมิจฉาชีพ
เหตุการณ์นี้กระทบตลาดหุ้นด้วย หุ้นของ CrowdStrike และ ไมโครวอฟท์ร่วง แต่ในขณะเดียวกัน หุ้นบริษัทอื่นๆ เกี่ยวกับความปลอดภัยไซเบอร์ทะยานขึ้น 14% ในการซื้อขายล่วงหน้าในตลาดสหรัฐฯ
ที่มา:
