จากกรณีที่นายปรีชา ขวัญมงคล อายุ 58 ปี อดีตพนักงานธนาคารแห่งหนึ่งใน อ.พบพระ จ.ตาก ซึ่งอยู่ที่บ้านพบพระใต้ ต.พบพระ อ.พบพระ ได้ออกมาประกาศขายไต 1 ข้าง ผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อนำเงินไปช่วยเหลือสุนัขและแมว ทั้งหมดกว่า 100 ตัว ที่เลี้ยงไว้ในบ้าน และเกิดภาวะขาดอาหาร เนื่องจากเงินเลี้ยงดูไม่เพียงพอ ทำให้สุนัขและแมวอดอยาก ต้องลดคุณภาพอาหาร ล่าสุด นายปรีชา ต้องใช้ฟืนหุงข้าวและทำกับข้าว แทนการใช้แก๊สหุงต้ม เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายในบ้าน และนายปรีชาก็ทานอาหารแบบเดียวกับที่ใช้เลี้ยงสุนัขกับแมว ทุกมื้อเหมือนกัน
วันที่ 16 พ.ย. นายปรีชา กล่าวว่า เลี้ยงสุนัขและแมวมานานกว่า 10 ปีแล้ว และเพิ่งลาออกจากธนาคารกว่า 1 ปีที่ผ่านมา โดย สุนัขและแมว มีคนเอามาให้ รวมทั้งมาปล่อยทิ้งไว้แถวบ้าน และมาเกิดลูกเพิ่มมาก็มี ส่วนที่บอกว่าจะขายไตข้างหนึ่งของตนเอง เพื่อหาเอาเงินไปซื้ออาหารให้สุนัขกับแมวกินนั้นเป็นความจริง เพราะตนเห็นว่าถ้าช่วยสัตว์ที่เลี้ยงไว้ไม่ได้ ทำให้สัตว์อยู่ไม่ได้ตนก็ไม่อยากอยู่ และถ้าจะให้ตายเพื่อสุนัขและแมว ตนเองก็ยอมเพราะรักทุกตัว
นายปรีชา กล่าวต่อว่า สำหรับอาหารสุนัข อาทิตย์ละ 2 กระสอบ มีไก่อีกต่างหาก อาทิตย์หนึ่งหลายพันบาท เดือนละหลายหมื่นบาท เลี้ยงมาตลอด ถึงขั้นหม้อหุงข้าวเสีย ตู้เย็นเสียก็ไม่ซ่อมเพื่อประหยัดเงิน ทุกวันนี้กินข้าวแบบเดียวกันกับสุนัขและแมว ต้องใช้เตาฝืนแทนแก๊สหุงต้มเพื่อประหยัดที่เดิมต้องใช้เดือนละ 3 ถัง โดยไปหาฟืนแถวบ้านนำมาหุงอาหารแทน และขณะนี้ก็ขายที่ดินแปลงด้านหลังบ้าน เพื่อเอาเงินมาซื้ออาหารสัตว์ นอกจากเอาเครื่องไฟฟ้า อุปกรณ์ต่างๆ ภายในบ้านออกไปขายแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภาพบ้านของนายปรีชา เต็มไปด้วยสุนัขและแมว โดยเฉพาะแมว จะอยู่บนเพดานบ้าน และซุกซนมากจนเพดานพัง แต่ทางบ้านไม่ยอมซ่อมแซม ปล่อยไว้ในสภาพโทรมๆ เพื่อประหยัดเงิน เอาไปเลี้ยงสัตว์ โดยสุนัขมีทั้งหมดกว่า 71 ตัว ส่วนแมวราว 40 ตัว ส่วนสุนัขและแมวที่ตาย นายปรีชา ได้นำไปฝังไว้ในบริเวณบ้าน มากกว่า 40 ตัว หรือ จนชาวบ้านในละแวกนั้นเรียกว่า สุสานหมาแมว
