หลังจากอยู่ในภาวะน่าหวั่นใจมานานกว่า 2 ปี ซีอีโอของแอร์เอเชียก็ได้เปิดเผยสถานการณ์ปัจจุบันและแนวโน้มการกลับคืนสู่ปกติของรายได้ของกรุ๊ป
‘โทนี่ เฟอร์นานเดส’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มแอร์เอเชีย เผยว่า หากคาดการณ์จากสถานการณ์ตอนนี้ที่หลายประเทศทั่วโลกอย่างเช่นจีนหรือออสเตรเลียยังคงปิดประเทศ รายได้ของแอร์เอเชียจะกลับเข้าสู่ระดับก่อนโควิด-19 ได้ในเวลา 6-9 เดือน
แต่ถ้าหากพรมแดนกลับมาเปิดเต็มที่อีกครั้ง โดยไม่มีการกำหนดให้ต้องตรวจ RT-PCR และไม่ต้องกักตัว ก่อนเข้าประเทศ รายได้ของแอร์เอเชียกรุ๊ปจะกลับเข้าสู่ระดับก่อนโควิด-19 ได้ภายใน 3 เดือน
“ดีมานด์อยู่ตรงนั้นแล้ว ขึ้นอยู่ความกล้าของรัฐบาลเท่านั้น” และ “เราต้องอยู่กับโควิด-19 ให้ได้เหมือนกับที่เราเคยอยู่กับซาร์หรือว่าเอดส์ และตอนนี้เรามีวัคซีนแล้ว”
‘โทนี่’ เล่าว่า แนวโน้มสถานการณ์ค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับจากอัตราการฉีดวัคซีน ยารักษาโควิด-19 และภูมิคุ้มกันหมู่ที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการเปิดประเทศของสิงคโปร์และไทย
แต่การกลับมาเปิดพรมแดนระหว่างประเทศเป็นสิ่งสำคัญ เพราะการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการบินและการท่องเที่ยวในเอเชียแปซิฟิกยังคงตามหลังยุโรปและสหรัฐอเมริกาอยู่ โดยปัจจุบันกลุ่มแอร์เอเชียกำลังปฏิบัติการบิน 700 เที่ยวบิน จากแค่ 66 เที่ยวบินในเดือน ก.ย.
ทำให้ CEO ของแอร์เอเชียกรุ๊ปคาดหวังว่า การกลับมาเปิดให้นักเดินทางเข้าสู่ ‘ลังกาวี’ ของมาเลเซียใต้โครงการบับเบิ้ลในวันที่ 15 พ.ย. ที่จะถึงนี้ และการเปิดทราเวลเลนส์ (VTL) ระหว่างมาเลเซีย-สิงคโปร์ในวันที่ 29 พ.ย. ที่จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของทั้งมาเลเซียและสิงคโปร์ จะมีเกณฑ์การเดินทางที่ง่ายและสะดวก
นอกจากนั้น ‘โทนี่’ ยังเผยว่าเป้าหมายของเขาตอนนี้ คือ ทำให้เงินเดือนของพนักงานทุกคนกลับสู่ปกติในเดือน ธ.ค. และในเดือน ม.ค. ปีหน้า แอร์เอเชียกรุ๊ปยินดีที่จะต้อนรับพนักงานที่ถูกปลดออกจากงาน และมีแผนที่จะจ้างพนักงานที่ถูกปลดจากสายการบินโลว์คอสต์
ทั้งนี้ ‘โทนี่’ ยังได้เผยข่าวดีล่าสุดของแอร์เอเชีย ประกาศแต่งตั้ง ‘โคลิน เคอร์รี่’ (Colin Currie) อดีตผู้บริหารของอาดิดาส ให้ดำรงตำแหน่ง ‘ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการพาณิชย์’ รับผิดชอบพัฒนากลยุทธ์ที่เน้นผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง โดยใช้ข้อมูลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเติบโตและบรรลุวัตถุประสงค์ทางการเงินของสายการบินและหน่วยธุรกิจด้านดิจิทัลของแอร์เอเชีย
โดย ‘โคลิน เคอร์รี่’ เผยเป้าหมายในการทำงานว่าเขาตั้งเป้าที่จะขยับรายได้ของ ‘ธุรกิจดิจิทัล’ ของกลุ่มแอร์เอเชียขึ้นเป็นสัดส่วน 50% ของรายได้กลุ่มแอร์เอเชียในปี 2565










