หลังจากฉางเผิง จ้าว (Changpeng Zhao) หรือที่รู้จักกันในวงการคริปโตเคอร์เรนซีว่า CZ ผู้ก่อตั้ง Binance บริการซื้อขายคริปโตรายใหญ่ที่สุดในโลก ลาออกจากตำแหน่งซีอีโอ สยบปัญหาประเด็นต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับ Binance ในช่วงที่ผ่านมา และแต่งตั้ง “ริชาร์ด เทง” (Richard Teng) หัวหน้าฝ่ายตลาดภูมิภาคทั่วโลกขึ้นมาเป็นซีอีโอคนใหม่ เพื่อสยบปัญหาประเด็นต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นความผิดฐานละเมิด พ.ร.บ.ความลับของธนาคาร และเผชิญข้อกล่าวหาจากหน่วยงานกำกับดูแลในสหรัฐ ไม่ว่าจะเป็นการให้บริการโดยไม่มีใบอนุญาต การไม่มีกระบวนการตรวจสอบผู้ซื้อขายบนแพลตฟอร์มตามกฎหมายกำกับดูแล ซึ่ง Binance ระบุว่าที่ผ่านมาได้ร่วมมือกับหน่วยงานเพื่อปรับปรุงกระบวนการจัดการ รวมทั้งยอมรับข้อกล่าวหาและจ่ายค่าปรับราว 4.3 พันล้านดอลลาร์
ล่าสุด “ริชาร์ด เทง” ซีอีโอคนใหม่ของ Binance ประกาศวิสัยทัศน์ว่า ปัจจุบัน Binance ในฐานะผู้นำแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดของโลก มีโครงสร้างเงินทุนที่ปราศจากหนี้ มีอัตราค่าใช้จ่ายในปริมาณน้อย รวมถึงรายได้และผลกำไรที่แข็งแกร่ง
ทั้งนี้ พร้อมพา Binance ให้ก้าวหน้าและวางรากฐานด้านนวัตกรรม การกำกับดูแล และการให้บริการทางการเงินที่มีผู้ใช้เป็นศูนย์กลางเพื่อตอบสนองทุกความต้องการและความคาดหวังของผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง และยังเดินหน้าสานต่อพันธกิจหลักของ Binance ในการมอบอิสรภาพทางการเงินให้กับทุกคน และให้บริการที่ผู้ใช้เป็นศูนย์กลาง
ริชาร์ด กล่าวถึงความสำคัญของผู้เล่นในอุตสาหกรรมที่ต้องให้ความร่วมมือกับผู้กำหนดนโยบาย เพื่อผลักดันให้เกิดการพัฒนากรอบการกำกับดูแลที่เชื่อมโยงกันได้ทั่วโลกอย่างมีประสิทธิภาพ และย้ำความรับผิดชอบในฐานะผู้ดูแลที่มีการถือสินทรัพย์ของลูกค้าเต็มจำนวนพร้อมด้วยเงินทุนสำรอง ในอัตรา 1:1 เพื่อให้ทุกคนมั่นใจได้ว่าเงินของทุกคนจะได้รับการปกป้อง ผ่านระบบกลไกพิสูจน์เงินทุนสำรอง (Proof-of-reserves) ที่ได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องตลอด 12 เดือนที่ผ่านมา
อีกทั้งยังมีกองทุนฉุกเฉิน Secure Asset Fund for Users (SAFU) เพื่อปกป้องผู้ใช้งานในกรณีเกิดเหตุสุดวิสัยที่ก่อให้เกิดความเสียหายรุนแรง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถือเป็นการแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของ Binance ในด้านการรักษาความปลอดภัยของแพลตฟอร์มได้เป็นอย่างดี
“จากประสบการณ์การทำงานด้านการบริการทางการเงินและการกำกับดูแลกฎระเบียบที่มีมาอย่างยาวนานกว่าสามทศวรรษ เข้าใจเป็นอย่างดีถึงความท้าทายและความแตกต่างที่ไม่เหมือนใครของอุตสาหกรรมคริปโต 2 ปีที่ผ่านมา Binance ได้ทำงานอย่างเป็นระบบเพื่อแก้ไขปัญหาการกำกับดูแลที่เคยเกิดขึ้นในอดีต ควบคู่ไปกับการเฟ้นหา ว่าจ้างบุคลากรที่มีประสิทธิภาพเพื่อมาเสริมทัพการทำงานด้านการกำกับดูแลของ Binance ให้ดียิ่งขึ้น”
ในฐานะผู้นำองค์กรที่มีฐานผู้ใช้มากกว่า 160 ล้านคน ตระหนักถึงความสำคัญของการวางรากฐานที่ดีเพื่อมุ่งไปสู่การเติบโตและความสำเร็จต่อเนื่องในอนาคตกับอุตสาหกรรมคริปโตที่กำลังพัฒนาในขณะนี้
ซีอีโอคนใหม่ Binance กล่าวต่อว่า มีความตั้งใจที่จะสานต่อนวัตกรรมบล็อกเชน โดยเน้นไปที่การเพิ่มโอกาสการเข้าถึงทางการเงิน การโอนเงินข้ามพรมแดน การลดต้นทุนของการทำธุรกรรมทางการเงิน โดยให้ความสำคัญกับการผลักดัน และประยุกต์ใช้ Web3 ซึ่งจะทำให้เกิดระบบนิเวศที่ช่วยให้ทุกคนสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีที่จะมาเปลี่ยนแปลงโลกทางการเงินได้
“การเดินหน้าก้าวต่อไปของการเติบโตอย่างมีความรับผิดชอบของ Binance พร้อมที่จะมีส่วนร่วมในการหารือกับผู้กำหนดนโยบายระดับโลก เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนต่ออนาคตของอุตสาหกรรมคริปโต รวมไปถึงการร่วมส่งเสริมความรู้ให้กับผู้คนอีกกว่าพันล้านคน เพื่อให้ตระหนักถึงความยั่งยืนในระยะยาวของคริปโตต่อไป” ริชาร์ด เทง กล่าว










