นายเบน เตชะอุบล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คันทรี่ กรุ๊ป ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ CGD เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่การพัฒนาโครงการเจ้าพระยา เอสเตท โครงการมิกซ์ยูสระดับเมกะโปรเจกต์ริมแม่น้ำ มูลค่าโครงการรวมกว่า 32,000 ล้านบาท ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี
ทั้งโครงการคอนโดมิเนียมโฟร์ซีซั่นส์ ไพรเวท เรสซิเด้นซ์ กรุงเทพฯ, โรงแรมคาเพลลา กรุงเทพฯ และโรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ กรุงเทพฯ ณ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา บริษัทจึงได้ต่อยอดความสำเร็จสู่การเดินหน้าพัฒนาโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่แห่งใหม่ บนถนนวงแหวนอุตสาหกรรม ในย่านพระราม 3 ประกอบด้วยโรงเรียนนานาชาติ และโครงการคอนโดมิเนียมระดับลักชัวรี มูลค่าโครงการรวมทั้งสิ้น 14,200 ล้านบาท
โดยล่าสุด บริษัทได้วางศิลาฤกษ์เพื่อเริ่มการก่อสร้าง โรงเรียนนานาชาติพระราม 3 (Rama III International School) ซึ่งเป็นโรงเรียนนานาชาติระดับพรีเมียม ภายในมิกซ์ยูสดังกล่าวแล้วเมื่อวันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยมีสมเด็จพระมหาธีราจารย์ กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม เป็นองค์ประธานในการประกอบพิธี
โรงเรียนดังกล่าว จะประกอบด้วยอาคารจำนวน 6 อาคาร ออกแบบให้ทันสมัย รองรับนักเรียนได้ราว 1,700 คน เปิดสอนตั้งแต่ อายุ 2-18 ปี หรือเตรียมอนุบาล ถึง เกรด 12 (ชั้นเตรียมอนุบาล – มัธยมศึกษาตอนปลาย) ใช้หลักสูตรการเรียนการสอนที่โดดเด่นระดับเวิลด์คลาส ผสานกับการเรียนรู้ผ่านกิจกรรมนอกหลักสูตร (Co-curricular program) เพื่อเตรียมความพร้อมนักเรียนให้สอดคล้องกับมาตรฐานการรับเข้าศึกษาต่อของโรงเรียนและมหาวิทยาลัยชั้นนำในสหรัฐอเมริกา
พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับการเรียนภาษาจีนแมนดาริน ทั้งนี้ บริษัทอยู่ระหว่างพิจารณาแบรนด์โรงเรียนและผู้ดำเนินธุรกิจโรงเรียน (School Operator) รอบสุดท้าย คาดว่าจะมีการประกาศให้ทราบได้เร็วๆ นี้
นายเบน กล่าวอีกว่า พระราม 3 นับเป็นอีกหนึ่งทำเลศักยภาพที่เชื่อมต่อการเดินทางสู่พื้นที่สำคัญได้ง่ายและหลากหลาย ทั้งย่านศูนย์กลางธุรกิจ (CBD) และแหล่งงานขนาดใหญ่อย่างสีลม-สาทร อโศก-สุขุมวิท ตลอดจนอยู่ใกล้ทางด่วนและสะพานวงแหวนอุตสาหกรรม เชื่อมต่อไปได้ถึงจังหวัดสมุทรปราการ
ขณะเดียวกัน ยังเป็นทำเลใกล้แม่น้ำเจ้าพระยา มีชุมชนและโครงการอสังหาริมทรัพย์ใหม่ๆ เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อประกอบกับความเชี่ยวชาญของบริษัทในการพัฒนาทั้งโครงการที่อยู่อาศัยและโรงเรียนนานาชาติ ซึ่งแตกต่างจากบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายอื่นๆ ในไทย เชื่อว่าจะช่วยพลิกโฉมย่านพระราม 3 และตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี
“บริษัทมีความมุ่งมั่นอย่างมากกับการเดินหน้าพัฒนาโครงการด้านการศึกษา โดยโรงเรียนนานาชาติพระราม 3 นี้ถือเป็นการพัฒนาโครงการด้านการศึกษาแห่งที่สองของเรา
โดยที่ผ่านมาเราได้ร่วมกับ Nord Anglia Education หนึ่งในองค์กรชั้นนำด้านโรงเรียนนานาชาติระดับพรีเมียมของโลก เพื่อเปิดดำเนินการ Oxford International College Brighton ซึ่งถือเป็นโรงเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (Sixth Form School) ชั้นนำของสหราชอาณาจักร บนพื้นที่ 20.2 เอเคอร์ ในบริเวณ Ovingdean Hall ของบริษัทที่ Greenway Brighton สหราชอาณาจักร โดยมีกำหนดการเปิดเรียนประมาณเดือน ก.ย.นี้
ทั้งนี้ เรามุ่งมั่นที่จะสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรระดับเวิลด์คลาสและพัฒนาโรงเรียนอย่างต่อเนื่อง โดยโรงเรียนนานาชาติพระราม 3 ถือเป็นการพัฒนาโรงเรียนนานาชาติแห่งแรกของเราในไทย และเป็นแฟล็กชิพการลงทุนด้านการศึกษาของคันทรี่ กรุ๊ป” นายเบน กล่าว
ปัจจุบัน โรงเรียนนานาชาติ ถือเป็นที่ต้องการของหลากหลายตลาดในไทย ได้แก่
1.ตลาดกลุ่มผู้ปกครองชาวไทย ที่ต้องการให้บุตรหลานได้เข้าเรียนในหลักสูตรที่มีคุณภาพ มีสังคมสภาพแวดล้อมที่ดี เอื้อต่อพัฒนาการของเด็ก
2.กลุ่มครอบครัวชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย (Expat) โดยเฉพาะชาวจีนที่ปัจจุบันพาครอบครัวเข้ามาอาศัยในไทย
3.กลุ่มประเทศเพื่อนบ้านกัมพูชา ลาว เมียนมา และ เวียดนาม (CLMV) ที่นิยมส่งบุตรหลานมาศึกษาในประเทศไทยเพิ่มจำนวนมากขึ้น เนื่องจากมั่นใจในศักยภาพของการศึกษา สภาพแวดล้อมที่ดี และค่าใช้จ่ายที่คุ้มค่า
ขณะที่ธุรกิจโรงเรียนนานาชาติในไทย มีการเติบโตเฉลี่ยถึงราว 10% ต่อปี บริษัทจึงเชื่อมั่นว่าการพัฒนาโรงเรียนนานาชาติพระราม 3 จะช่วยสร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) ให้แก่บริษัทได้อย่างต่อเนื่องในอนาคต คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในช่วง ส.ค. 2568
ขณะที่โครงการคอนโดมิเนียมภายใต้มิกซ์ยูสดังกล่าวนั้น อยู่ระหว่างขั้นตอนการเตรียมการพัฒนา คาดว่าจะเปิดเผยข้อมูลรายละเอียดของโครงการ และเริ่มเปิดขายได้ในช่วงไตรมาส 4/2566 นี้










